ภาพความทรงจำที่ไซลัสเริ่มจำได้คือเขามีคุณพ่อและคุณแม่ที่รัก และเอาใจใส่ดูแลเขามาอย่างดีในฐานะลูกชาย และมอบตำแหน่งทายาทผู้สืบทอดลำดับที่ 3 ของตระกูลเวลลาเควียสให้กับเขา ซึ่งเขาก็จดจำว่าตัวเองเป็นเวลลาเควียสมาแบบนี้จนกระทั่งอายุได้ 6 ขวบ คุณแม่ได้ตั้งครรภ์ และให้กำเนิดน้องสาวที่น่ารักในปีต่อมาอย่างราบรื่น

ไซลัสเติบโตมากับน้องสาวอย่างซิลเวียอย่างสนิทสนม ยิ่งเห็นน้องสาวที่น่ารักมีความสุขมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งอยากมอบทุกอย่างบนโลกใบนี้ให้กับเธอเพื่อรักษารอยยิ้มนั้นเอาไว้ จวบจนกระทั่งซิลเวียอายุได้ 10 ขวบ เขาจึงได้รู้ความจริงจากปากของพ่อแม่ผู้บังเกิดเกล้าว่า แท้ที่จริงแล้วเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพวกท่าน แต่เป็นลูกบุญธรรมที่พวกท่านรับเลี้ยงมา

ชาติกำเนิดเดิมนั้นไซลัสเป็นเด็กที่เกิดในตระกูลชนชั้นสูงประเทศจีนในยุคสมัยที่บ้านเมืองเกิดความกระสับกระส่าย เกิดการจราจลภายในประเทศอยู่ตลอดเวลา เขาที่เป็นทายาทชายเพียงคนเดียวของครอบครัวจึงถูกส่งตัวไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่ยังเดินได้ไม่คล่องดี และเพราะคุณแม่นั้นสนิทกับแม่ผู้ให้กำเนิดของเขาประหนึ่งเพื่อนร่วมตาย ท่านจึงรับเขาที่เป็นลูกชายของเพื่อนมาเลี้ยงในฐานะลูกชายเพื่อหลีกออกจากปัญหาสงครามภายใน

นับตั้งแต่นั้นมา ไซลัสได้ตัดสินใจสละตำแหน่งทายาทผู้สืบทอดให้กับซิลเวีย ผู้เป็นทายาทของเวลลาเควียสที่แท้จริงแทน และตั้งใจเอาไว้ว่าจะคอยดูแลน้องสาวและพ่อแม่บุญธรรมของตัวเองให้ดีเพื่อตอบแทนความรักความเอาใจใส่จากครอบครัวนี้ จนกระทั่งช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เกิดขึ้น ซิลเวียถูกส่งออกไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ส่งข่าวสารราชการลับอยู่แห่งหนึ่ง เขาที่เป็นพี่ชายจะกล้าทิ้งน้องของตัวเองได้อย่างไร จึงได้แอบตามผู้เป็นน้องไปอย่างลับๆ และได้เห็นภาพสงครามอันน่ากลัว ตึกสูงเสียดฟ้าก็เกิดการถล่มลงมาเพราะการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ทั้งกัมตรังสี และแรงระเบิดที่ลุกลามนั้นพรากชีวิตน้องสาวของเขาไปต่อหน้าต่อตา

เพื่อช่วยเหลือน้องสาวของเขา ต่อให้พยายามขุดร่างจากเศษซากของตึกจนเลือดอาบท่ามกลางสงครามก็ไม่คิดจะยอมหยุด จนกระทั่งได้พบกับบุคคลปริศนาคนหนึ่งที่มายื่นข้อเสนอว่าจะช่วยให้น้องสาวของเขามีชีวิตรอดต่อไปได้ แต่เธออาจจะไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปนับตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ซิลเวียมีชีวิตอยู่ต่อ ต่อให้จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่มนุษย์ เขาก็ยังต้องการที่จะทำมัน แต่แลกเงื่อนไขที่ว่าถ้าหากน้องสาวไม่ใช่มนุษย์ เขาก็ไม่ปรารถนาจะเป็นมนุษย์เช่นเดียวกัน

แต่ดูเหมือนว่าชายปริศนาคนนั้นตั้งใจที่จะช่วยเหลือแค่ทายาทของตระกูลเวลลาเควียสที่แท้จริงเพียงเท่านั้น ต่อให้เขาจะเป็นทายาทนอกสายเลือด แต่ก็ไม่อาจปล่อยให้น้องสาวอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนโลกใบนี้ได้ เขาจึงยื่นข้อเสนอกับอีกฝ่ายถ้าหากยอมเปลี่ยนให้ตนเป็นเช่นเดียวกับน้องสาว เขายินดีที่จะมอบชีวิตอันเป็นนิรันดร์หลังจากนี้ปกป้องตระกูลเวลลาเควียสทั้งยังยอมเป็นทาสที่เขาคนนั้นเรียกใช้ตอนไหนก็ได้ตราบกว่าจะถูกสังหารให้สิ้นชีพนิรันดร์ไป

หลังจากมองดูการเปลี่ยนแปลงของน้องสาวด้วยการกัดของบุคคลปริศนานั้นอยู่ครู่หนึ่ง และปล่อยให้คนๆ นั้นมากัดตนเองต่อเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพตามผู้เป็นน้อง ก่อนจะหมดสติไปอย่างรวดเร็วเพราะเสียเลือดไปมาก และลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในฐานะ “แวมไพร์เกิดใหม่”

แต่น่าเสียดายที่เมื่อตื่นขึ้นมากลับไม่พบร่างของน้องสาวอย่างที่เป็น จึงได้เดินทางกลับอิตาลีเพื่อดูแลพ่อแม่ของพวกเขาแทน จวบจนเวลาผ่านไปเกือบร้อยปีก็ยังไม่ได้พบหน้าน้องสาว จนกระทั่งเมื่อปีก่อนนั้นได้พบกับซิลเวียที่เดินทางกลับมาที่อิตาลีเพื่อมาจัดการความวุ่นวายที่เกิดขึ้นพร้อมกับผู้นำตระกูลคนปัจจุบันอย่างวาเนสซ่า ก่อนจะได้รู้ว่าน้องสาวของเขาได้หลีกหนีความวุ่นวายไปอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านเอลิเชียนที่ซุกซ่อนอยู่ตรงมุมหนึ่งของสหรัฐอเมริกา

และในตอนนี้เขาเองกลับกลายเป็นฝ่ายที่ต้องเดินทางออกจากบ้านเพื่อมุ่งหน้ามาที่เอลิเชียน เพราะไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าซิลเวียจะกลับมาที่อิตาลีเพื่อพักผ่อน แต่เพราะห่วงวาเนสซ่าและเรย์จูที่ยังอยู่ที่นั่นจึงได้ส่งให้เขาเดินทางมาคอยดูแลทั้งสองคนแทน และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้แวมไพร์อายุร้อยปีอย่างเขาต้องมาเรียนรู้วิถีการใช้ชีวิตในหมู่บ้านที่แปลกประหลาดนี้ด้วยตัวคนเดียวเป็นครั้งแรก

เมื่อได้เรียนรู้วิถีการใช้ชีวิตในหมู่บ้านเอลิเชียนแล้วก็เดินทางกลับอิตาลีไปพร้อมกับทิ้ง ”ของสำคัญ” บางอย่างไว้ที่นี่ แต่ในเมื่อของสำคัญนั้นยังไม่กลับคืนสู่มือของตน เขาจึงกลับมาที่หมู่บ้านเอลิเชียนอีกครั้งเพื่อทวงของสำคัญที่ว่าให้กลับคืนสู่อ้อมอก