ประวัติตัวละคร Floyd Ryker Frost

introducing

Ryker

RACER OF FROST

ฟลอยด์ ไรเกอร์ ฟรอสต์

full name (thai)

Florida, United States 

birthplace

0

8

day

1

0

month

2

0

0

0

year

Merpeople

tribe

4

level

24

age

Business Economics, BA

education

F1 driver from Ferrai Team

occupation

Bruce, Nalu 

pet(s)

RED HAIR BOY

note

ไรเกอร์, ฟลอยด์

aliases

ESTP

mbti

#B22222

color code

Haechan NCT 

faceclaim

Friendly

talkative

Alcoholic

Dog Person

Smoker

calm

playful

Floyd Ryker Frost

full display name

BIOGRAPHY

ฟลอยด์ ไรเกอร์ ฟรอสต์ ลูกชายคนเล็กของจอร์จ เอเดน ฟรอสต์ และเมแกน ฟรอสต์คู่สามีภรรยาชาวเงือกตระกูลฟรอสต์ เขามีพี่สาวและน้องสาวนั่นก็คือ โจเซฟีน ควีนนี่ ฟรอสต์ พี่สาวของเขา มาริอาเบลล์ ไอร่า ฟรอสต์ น้องสาวของเขา และยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับโรวีน่าและเจนเนตต์ด้วย ฟลอยด์เติบโตที่ฟลอริด้า สหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกับโจเซฟีน เขาถูกเลี้ยงดูมาด้วยวิธีที่ไม่ได้แตกต่างจากพี่สาวเขามากเท่าไหร่นักหลัก ๆ คงเป็นวิธีการเอาตัวรอดจากพวกอัลลิเกเตอร์ที่มีอยู่ทั่วไปในฟลอริด้า ด้วยวิธีการเลี้ยงดูที่เหมือนกันทำให้ฟลอยด์นั้นนิสัยค่อนข้างเหมือนกับโจเซฟีนไม่มีผิด แต่ถึงแม้ว่านิสัยจะเหมือนกันแต่ว่าความชอบของสามพี่น้องนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฟลอยด์ชื่นชอบในการเล่นรถของเล่นมาตั้งแต่ยังเด็ก และสนใจเกี่ยวกับเรื่องรถและรถแข่งมาตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งนั่นมันสวนทางกับความชอบของโจเซฟีนอย่างสิ้นเชิงทำให้ช่วงเด็กฟลอยด์มักจะหนีไปเล่นคนเดียวอยู่บ่อย ๆ เพราะกลัวว่าจะโดนโจเซฟีนและมาริอาเบลล์บังคับให้ไปเล่นตุ๊กตาด้วยกัน หรือว่าเอาตุ๊กตาพวกนั้นมานั่งบนรถของเล่นของเขาแล้วบังคับให้บังคับมันช้า ๆ เพราะกลัวตุ๊กตาพัง

‘รถแข่งมันก็ต้องเร็วไม่ใช่หรอไง?! อยากได้ช้า ๆ ก็เอาไปนั่งรถพ่อสิ’ ฟลอยด์กล่าวกับโจเซฟีน

    เมื่อเริ่มโตขึ้นเรื่อย ๆ ฟลอยด์ก็ยังให้ความสนใจเกี่ยวกับรถดั่งเดิม ทั้งยังให้ความสนใจเกี่ยวกับรถแข่งและการแข่งรถมากขึ้นไปอีก ทำให้ฟลอยด์ตัดสินใจก้าวเข้าสู่วงการแข่งรถตั้งแต่อายุ 17 ปี หลังเลิกเรียนเขาก็มักจะหายหน้าหายตาไปอยู่ที่สนามฝึกซ้อมหรือบางทีในช่วงวันหยุดก็จะไปอยู่ที่สนามแข่งเพื่อดูการแข่งรถ Formula 1 (ฟอร์มูล่าวัน) จนเงือกหนุ่มเข้าเรียนมหาลัยและย้ายไปอยู่หอเขาก็ยังคงทุ่มเทให้กับการฝึกฝนขับรถฟอร์มูล่าวัน เรียกได้ว่าวันหยุดจะไม่ได้เห็นฟลอยด์ที่บ้านหรือที่หอเลย ถ้าอยากเจอเขาก็ให้ไปที่สนามซ้อมใกล้ ๆ กับมหาลัยแทน 

    เหมือนกับว่าการทุ่มเทซ้อมของฟลอยด์นั้นจะไม่ได้สูญเปล่าเพราะว่าฝีมือของเขาดันไปเข้าตาผู้จัดการของทีม Williams Mercedes ซึ่งเป็นทีมฟอร์มูล่าวันทีมลูกของ Mercedes-Benz ทำให้ฟลอยด์ได้เข้าสู่วงการแข่งฟอร์มูล่าวันแบบเต็มตัวในช่วงอายุ 20 ปี ฝีมือของฟลอยด์นั้นเป็นที่เลื่องลือในหมู่คนที่ชื่นชอบการแข่งรถฟอร์มูล่าวันอย่างมาก ทั้งยังทีมงานที่คอยเปลี่ยนอะไหล่ระหว่างการแข่งขันก็ทำงานเป็นทีมดีเยี่ยมเลยทำให้เขาได้รางวัลหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ได้เพียงที่สามเท่านั้น เพราะยังมีคนที่เก่งกว่าฟลอยด์อยู่มากเลยทีเดียว 

    ฟลอยด์ใช้เวลาแข่งให้กับทีม Williams Mercedes จนถึงอายุประมาณ 22 ปี ก่อนจะโดนทาบทามให้เข้าร่วมกับทีม Ferrari ซึ่งเป็นทีมที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน เงือกหนุ่มตอบตกลงเซ็นต์สัญญากับทีมใหม่ในทันทีโชคดีที่เขาเองก็หมดสัญญากับทีม Williams Mercedes พอดิบพอดี หลังจากที่ได้เข้ามาอยู่ทีม Ferrari เป็นที่เรียบร้อยแล้วเจ้าตัวก็ได้คว้าแชมป์มาในทันที อาจจะเพราะด้วยกลยุทธ์ของทีมอันดับต้น ๆ บวกกับฝีมือของฟลอยด์เลยทำให้คว้าแชมป์มาได้ตั้งแต่ลงสนามในนามของ Ferrari แต่ดูเหมือนว่าเส้นทางนักแข่งของฟลอยด์จะไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบเท่าไหร่นัก

    หลังจากได้คว้าแชมป์มาให้กับทีมได้สำเร็จทุกคนในทีมดูจะดีอกดีใจรวมไปถึงผู้จัดการทีมก็ด้วย แต่คงมีคนหนึ่งที่จะไม่ดีใจด้วยนั่นก็คือนักแข่งหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกปรับเปลี่ยนให้ไปแข่งในรายการรองเพราะไม่สามารถคว้าแชมป์ได้สักที และตำแหน่งการแข่งรายการหลักของเขาก็ถูกแทนที่ด้วย ฟลอยด์ ไรเกอร์ ฟรอสต์ นั่นทำให้เขาโกรธจัดและยิ่งฟลอยด์ได้แชมป์มาครองนั่นก็หมายความว่าเขาจะไม่สามารถกลับมาอยู่ในรายการแข่งหลักได้อีกแล้ว นั่นจึงเป็นชนวนที่ทำให้ฟลอยด์ต้องเจอกับเรื่องที่เขาไม่อยากจะเจอแม้แต่น้อย 

    ในการแข่งขันรายการหลักซึ่งเป็นรายการที่ฟลอยด์ในวัย 23 ปีนั้นมั่นอกมั่นใจอย่างมากว่าตัวเองจะคว้าแชมป์มาได้อีกอย่างแน่นอน เพราะหลังจากที่เรียนมหาลัยจบเขาก็มีเวลาเตรียมตัวมากขึ้น เขาเตรียมตัวมาอย่างดีและวางกลยุทธ์ต่าง ๆ มาพร้อม แต่ดูเหมือนว่าวันนั้นทีมเปลี่ยนอะไหล่ระหว่างแข่งจะไม่พร้อม เพราะระหว่างการแข่งขันนั้นรถของฟลอยด์เหมือนกับว่ายางจะไม่เกาะพื้นสนามเท่าที่ควรนักก่อนที่จะรู้สึกว่าล้อส่วนหลังหลุดออกมากระแทกเข้ากับของสนามอย่างจัง โชคดีที่ตอนนั้นเงือกหนุ่มมีสติมากพอจึงสามารถหยุดรถได้หลังจากนั้นถึงจะทุลักทุเลมากก็ตาม ทำเอาโจเซฟีนที่คอยดูอยู่ข้างสนามต้องลงมาดูน้องชายด้วยตัวเอง เมื่อเห็นว่าส่วนไหนของรถที่มีปัญหาเขาจึงตรงเข้าไปหาทีมเปลี่ยนอะไหล่กลางเกมการแข่งขัน ด้วยความใจร้อนของฟรอสต์หนุ่มทำให้เจ้าตัวเลือกจะซัดเข้าไปที่เบ้าหน้าของช่างที่ประจำการสวมน็อตล้อหลังเต็มแรง ทำเอาคนอื่น ๆ ในทีมและผู้ชมข้างสนามฮือฮากันยกใหญ่ 

    เรื่องนี้มันเกี่ยวกับความเป็นความตายเลยก็ว่าได้ถ้าเกิดว่าเขาเอารถไม่อยู่และประสบอุบัติเหตุขึ้นมาจริง ๆ ก็สามารถตายได้ง่าย ๆ ถึงจะสวมชุดกันไฟอะไรก็ตามแต่ผิวของเงือกยังไงก็ไวกับความร้อนอยู่แล้ว ถ้ารถเกิดระเบิดขึ้นมาฟลอยด์ก็อาจจะขาดน้ำตายก็ได้หากช่วยไม่ทัน นั่นเลยทำให้เขาโกรธจัดและจัดการช่างคนนั้นโดยไม่ได้สนใจสายตารอบข้าง จนเค้นได้ความว่ามันคือคำสั่งจากนักแข่งของทีมที่แข่งรายการรอง ไม่รอช้าเขาตรงไปหาชายหนุ่มคนนั้นที่อยู่ข้างสนามเตรียมตัวจะลงแข่งในรายการถัดไป ก่อนจะจัดการหมอนั่นไม่ต่างกับช่างของทีม โดยมีโจเซฟีนที่ยืนภูมิใจในตัวน้องอยู่ข้าง ๆ 

    เรื่องนี้ทำให้ฟลอยด์ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงแม้ว่าทุกคนจะรับรู้ถึงสาเหตุของเรื่องนี้ในเวลาต่อมาก็ตามแต่เงือกหนุ่มก็ยังโดนผู้ชมต่าง ๆ วิจารณ์ว่าเขานั้นเป็นพวกชอบใช้กำลัง และเป็นพวกใจร้อนเกินไป ทำให้เขาถูกตัดสินจากผู้จัดการว่าเขานั้นควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ และทำร้ายร่างกายผู้อื่น ฟลอยด์ไม่ควรจะทำเรื่องนั้นในรายการแข่งที่มีผู้ชมนับพันและสำนักข่าวต่าง ๆ จับตามองอยู่เลยสักนิดเดียว นั่นทำให้ชื่อเสียงของนักแข่งไฟแรงดับลงในคืนเดียวเลยก็ว่าได้  ส่วนหนุ่มนักแข่งรายการรองก็ถูกวิพากย์วิจารณ์ไม่ต่างกัน ดังนั้นทั้งสองก็จะต้องได้รับโทษต่างกันไปตามกฏของทีม โดยนักแข่งหนุ่มคนดังกล่าวถูกถอดออกจากทีมถาวรหลังจากสอบสวนเรื่องดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ส่วนฟลอยด์นั้นถูกพักการแข่งขันทุกรายการเป็นเวลาหนึ่งปี และจะไม่สามารถย้ายไปร่วมกับทีมอื่นได้เพราะว่ายังไม่หมดสัญญากับทีม Ferrari

   โจเซฟีนรับรู้ได้ความเสียใจของน้องชายตัวเองได้เป็นอย่างดีเพราะว่าปกติเจ้าตัวเป็นคนมีเอเนอร์จี้สูง และร่าเริงแบบสุด ๆ แต่หลังจากที่โดนพักการแข่งฟลอยด์กลับหมกตัวอยู่แต่ในห้อง ทำเอาโจเซฟีนเป็นห่วงน้องชายตนเองแบบสุด ๆ เธอไม่อยากให้อีกฝ่ายหมกหมุ่นอยู่กับเรื่องการแข่งเท่าไหร่นักเพราะมีแต่จะทำให้ความรู้สึกของเงือกหนุ่มแย่ลงไปเรื่อย ๆ เธอเลยเสนอพ่อของเธอให้ส่งน้องชายของตนเองไปอยู่เอลิเชียนกับโรวีน่าและเจนเนตต์เพื่อพักผ่อนระหว่างที่โดนพักการแข่งขัน ระหว่างนี้ฟลอยด์อาจจะได้เจอกับเพื่อนใหม่ ๆ ที่เหมือน ๆ กับเงือกหนุ่ม รวมทั้งเผ่าพันธุ์อื่น ๆ และอาจจะได้เจอกับเรื่องต่าง ๆ ที่สามารถทำให้เขาลืมเรื่องนี้ไปได้ 

     ‘ไปก็ได้ แต่ขอไปหาห้องอยู่เองแล้วกัน ถ้าอยู่กับสองแฝดมีหวังโดนบังคับเล่นตุ๊กตาแหงๆ’ เงือกหนุ่มเอ่ยตอบกลับโจเซฟีนหลังจากที่ได้คุยเรื่องนี้กัน ตามจริงเขาไม่ได้กลัวเรื่องนั้นหรอกแถมยังอุ่นใจด้วยที่ได้ไปที่ใหม่ ๆ แล้วมีพี่น้องอยู่รอบตัว แต่เขาไม่อยากรบกวนทั้งสองมากจนเกินไปต่างหาก เพราะต้องไปอยู่ตั้งปีนึงเลยนี่ . .

TMI

• ช่วงที่อยู่หอเขาได้รู้จักแฝดเงือกสองคนก็คือเรย์ มาร์มอริสและเซน มาร์มอริส ฟลอยด์ค่อนข้างจะสนิทกับพวกเขาเพราะว่าเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกันกับเขา แต่ว่าจู่ ๆ ทั้งสองก็หายไปพร้อมกับบ้านของทั้งสองที่มอดไหม้ ฟลอยด์พยายามตามหาแต่ก็ต้องล้มเลิกความพยายามเพราะว่าการฝึกซ้อมสำคัญกว่า
  
• รักแรกของฟลอยด์ก็คือเซน มาร์มอริส (แต่แอบชอบเขาฝ่ายเดียว)
  
• ช่วงที่โรวีน่าและเจนเนตต์มาอยู่ที่บ้านฟลอยด์จะมีความสุขเป็นพิเศษเพราะจะไม่โดนโจเซฟีนบังคับเล่นตุ๊กตา พี่สาวของฟลอยด์จะไปชวนโรวีน่าเล่นแทน
  
• เคยต่อยกับเพื่อนตอนเรียนไฮสคูลบ่อย ๆ แต่โจเซฟีนไม่เคยถามว่าเจ็บหรือเปล่า? เอาแต่ถามว่าชนะไหม ?
  
• เกลียดผักทุกชนิดยกเว้นสาหร่ายกับแครอท
  
• ชอบหมามาก เรียกได้ว่าเอ็นดูหมาทุกตัวบนโลกใบนี้
  
• ชอบเล่นกีต้าร์รองลงมาจากขับรถ เป็นหนุ่มที่รักในเสียงดนตรี
  
• ชอบเล่นเกมมาก ๆ ยิ่งเกมเกี่ยวกับแข่งรถยิ่งชอบเลย !
  
• สูบบุหรี่เป็นบางครั้ง ส่วนใหญ่จะสูบตอนที่มีเรื่องให้คิดหรือช่วงที่หงุดหงิด
  
• สายตาสั้นต้องใส่คอนแทคเลนส์และแว่นตา แต่เมื่ออยู่ในน้ำจะสามารถมองใต้น้ำได้อย่างปกติ
  
• สะสมพวกของเล่น โมเดล ฟิกเกอร์
  
• สกิลทำอาหารเรียกได้ว่าติดลบ
  

biography & TMI

APPEARANCE

  ร่างมนุษย์ : รูปร่างสูงโปร่ง สูงราว ๆ 176 ซม. ดวงตาคมนัยน์ตาสีเดนิม เรือนผมตามธรรมชาติคือน้ำตาลเข้มแต่เขาก็มักจะเปลี่ยนสีผมตัวเองไปเรื่อย ๆ แล้วแต่ความชอบในช่วงนั้น ๆ ผิวขาว คิ้วเข้ม จมูกโด่งรับกับทุกส่วนบนใบหน้า มีจุดเด่นคือจุดขี้แมลงวันเล็ก ๆ บนใบหน้าที่เรียงลงมาถึงบริเวณคอ ตำแหน่งของมันคล้ายกับกลุ่มดาวหมีเล็กหรือว่า Ursa Minor มีรอยสักหลายจุดบนร่างกาย ข้อมือ และชายโครง

  ร่างชาวงือก : ทุกอย่างเหมือนกับตอนเป็นมนุษย์ สีหางตอนเป็นชาวเงือกจะเป็นสีฟ้าอมเขียว IRIS BLUE ✦ #00ACC1

PERSONALITY
ไรเกอร์เป็นคนที่อัธยาศัยดี ยิ้มเก่ง เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มักจะเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ เสมอ ๆ  ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง มีความคิดเป็นของตัวเองถูกจูงจมูกได้ค่อนข้างยาก เป็นคนที่ชัดเจนว่าตัวเองชอบอะไรไม่ชอบอะไร ไม่ยอมคน เป็นคนที่หงุดหงิดค่อนข้างง่ายเรื่องหลัก ๆ ที่จะทำให้ฟลอยด์หงุดหงิดได้คงเป็นเรื่องที่ว่าโดนคู่สนทนาเมิน เงียบใส่ หรือว่าโดนหยาบคายใส่ก่อน และอีกเรื่องคงหนีไม่พ้นคนที่ทำให้เขาอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตายโดยเขาไม่สนใจเลยว่าตอนนั้นเขาจะอยู่ต่อหน้าใครขอแค่เพียงได้สะสางเรื่องที่ทำให้เขาหงุดหงิดก็พอ เพราะอย่างนั้นฟลอยด์จึงโดนที่บ้านดุบ่อย ๆ เพราะดูเหมือนคนที่คุมอารมณ์ยามโมโหได้ไม่ดีนัก พูดจาตรงไปตรงมาแต่ก็จะสุภาพกับคนที่เพิ่งรู้จักกันเสมอ 

appearance & personality

relationship

Ashlyn Gonzalez

Bruce's Angel - CF

Bethany L. Flozentine

Little Bunny - Housemate

Blair Vernier

Lightweight Fairy - CF

Blue Willoughby

BUDDY

Chandler C. Agreste

Best Elder Brother - Housemate

Florjia L. Chelinsie

Hottest Vampire

Hansel Legarius

Little Pumpkin

Hans X. Frost

2ND FATHER

Josephine Q. Frost

Elder Sister

Jennette V. Frost

Sleepy Mermaid - Cousin

Kamin Jones

Drinking Buddy - CF

Letisia B. Flozentine

New Friend

Mariabelle Ira Frost

Younger Sister

Pinkberry Perlman

Little Witch

Ray Marmoris

Childhood Friend

Rowena T. Frost

Bruce's teacher - Cousin

Shiba Kyou

Little werewolf

Simon Kyle

boyfriend

Violette C. Linville

cutest mermaid

Zane Marmoris

Childhood Friend

โพสต์นี้แก้ไขล่าสุด: 01-15-2025, 12:58 PM โดย Floyd R. Frost

introducing

Reina

The Abyssal Mermaid

มอร์ทิเชีย เรน่า ฟรอสต์

full name (thai)

Georgia, USA

birthplace

0

7

day

0

2

month

1

9

9

8

year

Merpeople

tribe

4

level

27

age

BSc (Hons) Science and Football, LJMU

education

Football Scout

occupation

Chloe, Charon

pet(s)

Jade Mermaid

note

เรน่า, เร, ทิช

aliases

ESTJ

mbti

#76b583

color code

SHIN RYUJIN

faceclaim

Friendly

Confident

Strict

Straightforward

Cheerful

Playful

Cat person

Morticia Reina Frost

full display name

    มอร์ทิเชีย เรน่า ฟรอสต์ ลูกสาวคนโตของเฮนรี่ อองเดรย์ ฟรอสต์ ชายผู้สืบทอดเชื้อสายตระกูลฟรอสต์ และเกรซ เจียง ดาราสาวจากทวีปเอเชียผู้มีเชื้อสายแฟรี่จากตระกูลเจียง มอร์ทิเชียมีน้องสาวหนึ่งคนนั่นก็คือ เจนิสก้า ลอเรล ฟรอสต์ สองพี่น้องนั้นเกิดและโตที่รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเธอนั้นได้รับยีนส์ชาวเงือกจากฝั่งพ่อมาแทบจะทั้งหมด นั่นจึงทำให้เธอนั้นเป็นชาวเงือกเต็มตัวเรียกว่าไม่มียีนส์แฟรี่ของแม่ปะปนอยู่เลย

    ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะเป็นพี่น้องกันแต่ว่าทั้งคู่นั้นมีความชอบที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง มอร์ทิเชียนั้นรักในการคลุกคลีกับวัฒนธรรมในฝั่งพ่อของเธออย่างเฮนรี่มากกว่า ซึ่งต่างกับน้องสาวที่ชอบในการคลุกคลีอยู่ในวัฒนธรรมของฝั่งแม่มากกว่า ดังนั้นชีวิตของมอร์ทิเชียตั้งแต่เด็กจนเรียนจบไฮสคูลอยู่แต่ที่รัฐจอร์เจียโดยไม่เคยมีความคิดที่จะย้ายไปเรียนที่อื่นเลย เพราะอาศัยอยู่ที่นี่แทบจะตลอดมอร์ทิเชียจึงสนิทกับพ่อที่อยู่ที่นี่มากกว่าแม่ที่มักจะบินไปมาระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน

    มอร์ทิเชียในเวลานั้นไม่ชอบการเคลื่อนย้ายตัวเองไปไหนเท่าไหร่ แต่ทว่าจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอต้องย้ายตัวเองไปทางนู้นทีตรงนี้ทีก็คงจะเป็นช่วงไฮสคูลที่บังเอิญโดนเพื่อนชวนให้ไปดูการแข่งขันฟุตบอลด้วยกัน มอร์ทิเชียเคยดูผ่าน ๆ กับพ่อของเธอผ่านหน้าจอโทรทัศน์แต่ไม่ได้ใส่ใจมากเท่าไหร่นัก การได้มานั่งดูข้างสนามนั้นเป็นอะไรที่แตกต่างจากการดูผ่านหน้าจอมาก ๆ มันทั้งตื่นเต้นไม่สามารถละสายตาจากสนามได้เลย ต้องคอยจับตามองดูลูกฟุตบอลในสนามรวมทั้งนักฟุตบอลที่มีความชำนาญ และทักษะเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน มอร์ทิเชียยังสนใจในทักษะเฉพาะตัวของผู้เล่นแต่ละคนด้วย แม้จะเป็นการแข่งขันฟุตบอลเล็ก ๆ แต่นั่นก็เหมือนกับว่าจะทำให้มอร์ทิเชียรู้ว่าเธอชอบอะไร เธอไม่ได้ชอบเล่นฟุตบอลแต่เธอชอบการดูฟุตบอลอยู่ขอบสนาม ไม่ใช่เพียงแค่นั้นแต่เธอยังชื่นชอบในการสังเกตวิธีการเล่น ทักษะ และเทคนิคพิเศษของผู้เล่นแต่ละคนด้วย นับจากนั้นมาไม่ว่าจะมีการแข่งขันฟุตบอลในไหนในรัฐถ้าเธอไปดูได้ก็มักจะไปเสมอ

    มอร์ทิเชียคนที่ไม่ชอบไปไหนจนพ่อกับแม่บ่นเริ่มเปลี่ยนไป เธอรักในการเดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลตามเมืองต่าง ๆ สุดท้ายก็กลายเป็นคนที่รักการเดินทาง และรักอิสระไปโดยปริยาย จนเมื่อเธอจบไฮสคูลมอร์ทิเชียศึกษาอย่างหนักเกี่ยวกับความสนใจว่าพอจะเข้าเรียนที่ไหนได้บ้าง จนท้ายที่สุดแล้วมอร์ทิเชียก็เลือกสอบเข้าศึกษาต่อที่ Liverpool John Moores University (LJMU) ในคณะ BSc (Hons) Science and Football เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ การตัดสินใจครั้งนี้ของเธอนั้นทำให้มอร์ทิเชียต้องย้ายจากบ้านเกิดไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ แม้ว่าพ่อกับแม่ของเธอจะไม่เห็นด้วยแต่มอร์ทิเชียก็เถียงเรื่องนี้หัวชนฝา และสุดท้ายทั้งสองก็ยอมแพ้ให้กับความมุ่งมั่นของเธอ

      หลังจากที่เรียนจบมหาวิทยาลัยมอร์ทิเชียก็เริ่มต้นการทำงานเป็น Football Scout ให้กับทีมสโมสรเล็ก ๆ ก่อนนั่นคือสโมสรแอสตัน วิลลา มอร์ทิเชียต้องย้ายออกจากหอในเมืองลิเวอร์พูล และพาตัวเองไปอยู่ที่เมืองเบอร์มิงแฮมเพื่อเข้าทำงานในสโมสรแอสตัน วิลลา ถึงแม้ว่าเธอจะต้องออกตะล่อนไปตามเมืองต่าง ๆ เพื่อตามหานักฟุตบอลหน้าใหม่ ๆ ตามการแข่งขันเล็ก ๆ การแข่งขันระดับไฮคูลหรือการแข่งขันระดับมหาวิทยาลัยก็ตาม เรียกว่ามอร์ทิเชียเป็นนักศึกษาจบใหม่ไฟแรงคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เธอใช้ทักษะและความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมาไปกับงาน ตั้งใจทำงาน และหมั่นพัฒนาทักษะของเธออยู่เสมอ ๆ ทั้งยังมีนิสัยที่เข้ากับคนอื่นได้ง่ายทำให้มอร์ทิเชียเป็นที่รักของรุ่นพี่ในทีม

      จนกระทั่งความสามารถในการเป็นแมวมองของมอร์ทิเชียในวัยยี่สิบหกปีนั้นดันเข้าตาสโมรทอตนัมฮอตสเปอร์เข้า ทำให้เธอนั้นต้องเปลี่ยนที่ทำงานอีกครั้งแต่ยังคงอยู่ในฐานะ Football Scout ตั้งแต่เล็กจนเข้าเรียนไฮสคูลเธอนั้นเป็นพวกชอบอยู่กับที่ไม่ชอบการเดินทาง แต่ทว่าในเวลานี่มอร์ทิเชียต้องย้ายที่อยู่ และเดินทางไปตามเมืองต่าง ๆ เป็นว่าเล่น ถ้าเป็นสมัยที่เรียนไฮสคูลเธอคงบ่นอุบแล้ว แต่เพราะตอนนี้เธอมีความชอบ และรักในอาชีพการงานของเธอในตอนนี้ ทำให้มอร์ทิเชียสามารถพาตัวเองย้ายที่อยู่ และเดินทางไปที่ต่าง ๆ ได้โดยไม่อิดออด

    เพราะว่าเธอนั้นยุ่งแต่กับการทำงานจึงไม่ค่อยมีเวลาพบปะญาติ ๆ ของตัวเองเลย เธอได้ทราบมาว่าญาติ ๆ ของเธอบางส่วนนั้นอาศัยกันอยู่ที่หมู่บ้านเอลิเชียน หมู่บ้านที่ทุก ๆ เผ่าพันธุ์ร่วมกันได้อย่างดี เพื่อพบปะญาติ ๆ ของเธอบ้างมอร์ทิเชียถึงหาเวลาพักร้อน และแวะเวียนมาที่หมู่บ้านเอลิเชียนเพื่อพบปะญาติ ๆ และทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ

biography

APPEARANCE

เธอมีส่วนสูงราว ๆ 170 เซนติเมตร รูปร่างสมส่วน มีมวลกล้ามเนื้อเล็ก ๆ จากการออกกำลังกาย ใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมหางชี้ขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากอิ่มสมกับจมูกโด่งได้รูปที่เข้ากับใบหน้า เรือนผมสีดำสนิทหรือบางทีก็จะเปลี่ยนสีตามอารมณ์ของเธอในช่วงนั้น ๆ นัยน์ตาสีเปลือกไม้ สีหางของเธอยามที่เป็นนางเงือกนั้นคือสีของหยก JADE #76B583

PERSONALITY

อาจจะเพราะว่าเป็นพี่คนโตทำให้เธอมินิสัยเจ้าระเบียบคล้ายกันกับผู้เป็นพ่อไม่ผิดเพี้ยน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เข้มงวดกับทุก ๆ คนรอบตัว เธอรู้ดีว่านิสัยนี้ของเธอไม่ใช่ทุกคนที่จะชื่นชอบ ดังนั้นเธอมักจะจัดระเบียบแค่กับตัวเองหรือสถานการณ์ที่จำเป็นเท่านั้น นอกจากนั้นเธอยังใช้นิสัยเจ้าระเบียบ เด็ดขาด และเข้มงวดกับการทำงานของเธอด้วย ทำให้เวลาทำงานนั้นมอร์ทิเชียตัดสินใจต่าง ๆ ได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ในช่วงเวลาทำงานนั้นเธอจะจริงจัง ตรงไปตรงมา มีทักษะในการสื่อสารดี สุขุม และเข้มงวดเสมอ แต่เมื่ออยู่นอกเวลางานมอร์ทิเชียเป็นหญิงสาวที่ขี้เล่น ช่างพูดช่างคุย เข้ากับผู้อื่นได้ค่อนข้างดี และใจดี นิสัยของมอร์ทิเชียบางอย่างนั้นสามารถอ่อนได้ตามสถานการณ์ เธอไม่ใช่พวกที่แข็งทื่อจนเกินไป นอกจากนี้เธอยังเป็นพวกที่ชอบวางแผนในการใช้ชีวิตแต่ละวันอีกด้วย หากวันไหนอารมณ์ดีเป็นพิเศษนั่นหมายความว่าเธอทำตามแผนที่วางไว้ได้ทั้งหมด

appearance & personality

relationship

Adelaide L. Frost

Cousin

Blair Vernier

Friend

Floyd R. Frost

Cousin

Genevieve V. Frost

Cousin

Josephine Q. Frost

Cousin

Jenisca L. Frost

younger sister

Lunetta Sam

Ex girlfriend

Mariabelle I. Frost

Cousin

Rowena T. Frost

Cousin

Veronica L. Legarius

Friend

โพสต์นี้แก้ไขล่าสุด: 03-30-2025, 07:47 PM โดย Floyd R. Frost

introducing

Chess

The Horizon Merman

บลูเชส ซีค คาร์เวนดิช

full name (thai)

California, USA

birthplace

1

4

day

0

1

month

1

9

9

7

year

Merpeople

tribe

4

level

28

age

College of Health and Human Development, CSUN

education

Boxer

occupation

-

pet(s)

Moon & Sea

note

เชส, ซีค

aliases

ESFJ

mbti

#233658

color code

Woo Do Hwan

faceclaim

Calm

Gentle

Friendly

Warm

Smoker

talkative

Kind

Bluechess Seek Qarvendish

full display name

    เดิมทีครอบครัวเงือกตระกูลคาร์เวนดิช ตั้งรกรากอยู่ที่หมู่บ้านหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขามักจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมนุษย์ โดยไม่มีมนุษย์คนไหนจับสังเกตพวกใครได้เลยสักนิด สามีภรรยาตระกูลคาร์เวนดิชนั้นเลือกที่จะปลูกบ้านหลังโตใกล้กับชายฝั่ง 

    คืนหนึ่งภรรยาได้ให้กำเนิดบุตรในบ้านหลังเล็กๆ หลังนั้น คืนนั้นเป็นคืนที่พระจันทร์ส่องสว่างแสงจันทร์มันส่องประทบไปยังผืนมหาสมุทรจนเห็นคลื่นน้ำที่ไหวไปมาเป็นสีน้ำเงินเข้ม คนเป็นพ่อจึงได้ตั้งชื่อให้ลูกชายของเขาว่าบลูเชส ซีค คาร์เวนดิช

    เด็กหนุ่มเติบโตขึ้นด้วยชื่อที่พ่อของเขามอบให้จนอายุ 25 ปี เขาใช้ชีวิตที่บ้านหลังนั้นร่วมกับพ่อและเเม่ของเขาอย่างมีความสุขจนในวันหนึ่งมีมนุษย์ละแวกนั้นพบเห็นนางเงือกตนหนึ่งบริเวณใกล้กับชายฝั่ง ซึ่งนั่นก็คือแม่ของบลูเชสเขาจำหน้าของเธอได้ว่าเธอคือภรรยาตระกูลคาร์เวนดิช ชาวประมงในท้องที่นั้นยังมีบางคนที่เชื่อเรื่องนางเงือกและต้องการจะล่ามัน มนุษย์คนนั้นจึงไปปล่อยข่าวแพร่ไปทั่วหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลไปจากชายฝั่ง จนคนในหมู่บ้านนั้นเริ่มตามล่าคนในครอบครัวคาร์เวนดิชทั้งสามตัดสินใจว่าจะรีบอพยพไปยังหมู่บ้านเอลิเชียน สองสามีภรรยาตัดสินใจว่าจะให้ผู้เป็นภรรยาเปิดประตูมิติใต้น้ำเพื่อที่จะได้หนีไปยังทะเลสาบทาโฮ

    ในคืนนั้นเองพวกเขาตัดสินใจที่จะลงไปที่มหาสมุทรเพื่อเดินทางแต่กลับโดนชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นดักล่าพวกเขา ในขณะที่กำลังวิ่งเพื่อลงไปยังชายฝั่งก็เจอกับกลุ่มหมู่บ้านจำนวนมากไล่ตามพวกเขามา ทั้งสามรีบวิ่งอย่างสุดใจคนเป็นพ่อผู้เป็นผู้นำครอบครัวนั้นถูกชาวบ้านคนหนึ่งในกลุ่มนั้นใช้ฉมวกขว้างใส่เขาที่ขาจนเขาล้มลงซ้ำยังโดนกลุ่มชาวบ้านเอาแหจับปลามาจับเขาไว้ คนเป็นพ่อโดนจับเสียแล้ว

“พ่อ!”

“ทั้งสองคนหนีไป ไม่ต้องห่วงพ่อ!”

    เสียงตะโกนของเงือกหนุ่มร้องดังขึ้นมาเมื่อพ่อของตนโดนจับโดยชาวบ้านพวกนั้น แต่เขาไม่มีทางเลือกแล้ว ทั้งเขาและแม่ของเขาต้องหนีไปไม่อย่างนั้นทั้งคู่จะโดนจับไปเหมือนผู้เป็นทั้งสามี และพ่อ คนเป็นแม่ตัดสินใจใช้กำลังทั้งหมดกระชากแขนลูกชายของตนที่กำลังจะวิ่งกลับไปช่วยพ่อของเขา ทั้งคู่วิ่งมาถึงชายฝั่งแล้วทั้งสองกำลังจะกระโดดลงมหาสมุทรไป คนเป็นเเม่ทั้งเสียใจ และดีใจปนกันไป เธอดีใจที่กำลังจะรอดจากน้ำมือพวกมนุษย์แล้ว แต่หารู้ไม่ว่าพวกชาวบ้านอีกกลุ่มกำลังแล่นเรือออกไปเพื่อรอเธอบริเวณที่ไกลออกไปจากชายฝั่ง

เงือกแม่ลูกกระโดดลงไปในมหาสมุทรที่น้ำเย็นเฉียบและมืดมิดแต่สายตาของพวกเงือกก็พอจะมองเห็นอยู่บ้าง ขาที่เคยใช้วิ่งเมื่อครู่เปลี่ยนไปหางปลายาวสไวอยู่ใต้น้ำ ทั้งคู่รีบว่ายให้ไกลออกไปจากชายฝั่งด้วยความรวดเร็ว แต่พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นเรือหลายลำที่กำลังจอดรอทั้งคู่อยู่จนเมื่อที่ถึงบริเวณที่คนเป็นแม่รู้สึกปลอดภัยก็จัดการใช้พลังของตัวเองนั้นเปิดประตูมิติ เธอใช้เวลาอยู่นานเพื่อรวบรวมสมาธิในการเปิดประตู เมื่อประตูมิติปรากฏขึ้นในจังหวะเดียวกันนั้นเรือลำก็มาจอดเหนือหัวของทั้งคู่ พวกเขาไม่รู้เลยว่ามันมาเมื่อไหร่จนเมื่อคนบนเรือส่องไฟลงมาและพบเห็นพวกเขาที่อยู่ใต้ผืนน้ำลางพวกเขาถึงรู้ตัว คนเป็นแม่บอกให้ลูกชายของเขาเข้าไปก่อน แต่ด้วยความที่ลูกชายของเขานั้นเป็นห่วงแม่จึงส่งสัญญาณให้แม่ของเขานั้นเข้าไปก่อน แต่มันไม่ทันเวลาเสียแล้วในเวลาเดียวกันมนุษย์บนเรือได้ใช้ฉมวกผูกเชือกแทงลงมาในน้ำจนปลายฉมวกแหลมคมนั่นแทงมาที่ไหล่ของคนเป็นแม่อย่างจัง เขาตกใจอย่างมากเมื่อเห็นภาพตรงหน้า จะใช้น้ำตารักษาตอนนี้ ก็คงไม่ทันแล้ว เพราะฉมวกอีกอันจากบนเรือถูกแทงลงมาอีก ในคราวนี้แทงทะลุหางปลาของเธอ เงือกหนุ่มตกใจอย่างมากพยายามจะดึงแขนแม่ของเขาแต่นั่นไม่ช่วยอะไรเลย แหจับปลาขนาดใหญ่ที่หว่านลงมาจนรวบตัวเธอเอาไว้ได้ แม่ของเขากำลังจะถูกจับขึ้นไปบนผิวน้ำ กำลังจะจากเขาไปอีกคนบลูเชสพยายามดึงแหที่คลุมตัวแม่ของเขาออก แต่เขากลับถูกผู้เป็นเเม่ที่ใช้เเรงเฮือกสุดท้ายผลักเขาเข้าไปในประตูมิติที่มันเล็กลงเรื่อย ๆ เพราะผู้สร้างกำลังอ่อนแรงลงทุกที

    ภาพสุดท้ายที่เห็นเขาเห็นคือหางปลาสีส้มสวยของแม่เขาที่ที่หยุดนิ่งไม่ได้ขยับไหวไปมาเหมือนตอนแรก พร้อมกับเลือกสีแดงจากที่ผสมอยู่ในน้ำในมหาสมุทร ก่อนที่เขาจะวูบไปและฟื้นขึ้นมาอีกครั้งใต้ทะเลสาบแห่งหนึ่ง ซึ่งชายหนุ่มคิดว่ามันคงเป็นที่หมายที่แม่ของเขาได้สร้างไว้ให้ก่อนที่จะจากเขาไป

    บลูเชสเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไร้ซึ่งพ่อแม่ในหมู่บ้านเอลิเชียน ที่นี่มีหลากหลายเผ่าพันธุ์รวมกัน และไม่มีการทำร้ายกันอย่างที่บลูเชสเคยเจอ ชีวิตใหม่ของเขาในหมู่บ้านเอลิเชียนเป็นไปอย่างราบรื่น เขาได้รู้จักและสนิทสนมกับคนที่นี่หลายต่อหลายคน คนที่หายจากเขาไปเนิ่นนานอย่างคลินต์ ออสบอร์นก็ได้กลับมาเจออีกฝ่ายที่นี่ในฐานะบัดดี้ของกันและกัน เวลาผ่านไปความรู้สึกโศกเศร้าจากการสูญเสียพ่อแม่ก็บรรเทาลง  เขาตัดสินใจว่าจะลองหางานทำให้เป็นกิจจะลักษณะหลังจากที่มั่นใจแล้วว่าตัวเองควรใช้ชีวิตหลังจากนี้แบบไหน

    จนสุดท้ายแล้วเขาก็ได้ถูกทาบทามให้เข้าร่วมค่ายมวยแห่งหนึ่งในชิคาโกเพราะสภาพร่างกายที่เข้าเกณฑ์ และทักษะที่พอจะไปต่อยอดได้  บลูเชสเองไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะได้เริ่มต้นใหม่ด้วยการเป็นนักมวยฝึกหัด แต่ถึงอย่างนั้นบลูเชสเองก็มีความชื่นชอบทางด้านนี้จึงไม่ได้ลังเลที่จะตอบตกลงสักนิดเดียว นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้บลูเชสต้องย้ายออกจากหมู่บ้านเอลิเชียนเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยเส้นทางของการเป็นนักมวย

    ปัจจุบันบลูเชสสังกัดอยู่ที่ค่ายมวยแห่งหนึ่งในชิคาโก้ เวลาผ่านไปหนึ่งปีบลูเชสนั้นยังคงเป็นนักมวยมือสมัครเล่นอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังลงแข่งขันในหลาย ๆ รายการทั้งระดับเล็ก และระดับกลาง เป้าหมายของเงือกหนุ่มก็คงจะหนีไม่พ้นการเป็นนักมวยมืออาชีพ และได้ขึ้นชกในการแข่งขันใหญ่สักครั้งในชีวิต

    หลังจากที่ห่างหายจากหมู่บ้านเอลิเชียนไปนานโดยไร้การติดต่อคนอื่น ๆ ยกเว้นฮันส์ และคลินต์ ในช่วงนี้อยู่ระหว่างการพักผ่อนจากการซ้อมมวยมาอย่างหนักตลอดทั้งปีสองปีที่ผ่านมา นั่นจึงทำให้เขาอยากจะพักผ่อนซึ่งหมู่บ้านเอลิเชียนเป็นสถานที่แรกที่บลูเชสเลือกจะมา

appearance & personality

APPEARANCE

ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่มีมวลกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนของร่างกายเพราะผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก ใบหน้าคมคาย ดวงตาคมเข้ากับรูปหน้าของชายหนุ่ม จมูกโด่ง ริมฝีปากบาง ส่วนสูง 187 เซนติเมตร นัยน์ตาสีดำสนิท เข้ากับเรือนผมที่ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำสนิท ยามที่สองขาเปลี่ยนเป็นครีบหางของชาวเงือกจะเป็นสี Estate Blue #233658

PERSONALITY

บลูเชสเป็นคนที่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าแทบจะตลอดเวลา เขาเป็นคนเข้ากับคนอื่นง่ายแต่ว่ากลับเป็นพวกที่พูดค่อนข้างน้อยแต่ถึงอย่างนั้นก็พยายายทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ตลอดเวลา เป็นคนที่สุภาพกับทุกคนทั้งยังเทคแคร์คนรอบข้างค่อนข้างเก่ง เป็นพวกไม่ชอบอธิบายอะไรมากมาย และเกลียดการมีปากเสียง หากคู่สนทนาไม่เข้าใจสิ่งที่บลูเชสพยายามอธิบายเขาจะหยุดอธิบายหลังจากผ่านไปสามรอบ เป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้นเลือกจะลงมือทำมากกว่าคุยโวเอาไว้ บลูเชสไม่ค่อยชอบการผิดคำพูดเท่าไหร่นัก เงือกหนุ่มยังเป็นพวกที่สุขุมไม่หัวร้อนง่ายไปกับสิ่งยั่วยุรอบข้าง และใจเย็นนั่นเป็นข้อดีของการอยู่บนสังเวียนในจังหวะที่เกมการแข่งขันกำลังดุเดือด เขาชอบอยู่ในที่สงบ ๆ หลีกหนีจากความวุ่นวายหลังจากที่เลิกงานแล้ว ชอบอะไรที่ตรงไปตรงมาไม่ซับซ้อนเท่าไหร่นัก

appearance & personality

relationship

Alvis L. Estelle

Cousin

Ashlyn Gonzalez

Friend

Bethany L. Flozentine

Friend

Blair Vernier

Friend

Chandler C. Agreste

Friend

Clint Osborn

BUDDy (EX)

Hans X. Frost

Best Friend

Jennette V. Frost

Friend

Rowena T. Frost

Friend

Shiba Kyou

Friend

Zane Marmoris

Friend

โพสต์นี้แก้ไขล่าสุด: 03-31-2025, 12:23 AM โดย Floyd R. Frost