ประวัติตัวละคร Balthus Azelheart

Balthus Azelheart

ชื่อตัวละครภาษาอังกฤษ : Balthus Azelheart
ชื่อตัวละครภาษาไทย : บัลทัส อาเซลฮาร์ท
ชื่อเล่น : ทัส , บัส , บาร์ตี้ หรืออื่นๆตามที่คนสนิทมักจะเรียก
วัน/เดือน/ปีเกิด : 30 December 1999
อายุ : 23 ปี
เผ่าพันธุ์ : พ่อมด-แม่มด
เฟซเคลม : Kang Daniel

อุปนิสัย :
          บัลทัสเป็นคนร่าเริง สดใส มีจินตนาการและช่างฝัน ในบางครั้งก็เป็นคนที่มีความมุมานะ และมีความทะเยอทะยานสูง บัลทัสนั้นชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับศาตร์เวทมนตร์ และถ้าหากเป็นสิ่งที่สนใจแล้ว บัลทัสมักจะจดจ่อและมุ่งมั่นอยู่กับสิ่งนั้นจนอาจลืมที่จะใส่ใจสิ่งรอบตัวไปบ้าง เลยทำให้เขาดูเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง

ประวัติความเป็นมา :
          แรกเริ่มเดิมทีนั้น บัลทัส ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ว่าภายในร่างกายของเขาจะมีพลังเวทมนตร์ไหลอาบอยู่ทั่วร่าง แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะใฝ่ฝันถึงสิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่าเวทมนตร์มาโดยตลอดก็เถอะ แต่ใครหลายคนกลับหัวเราะเยาะ และบอกว่านั่นเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันและถูกแต่งขึ้นมาจากจินตนาการ มีเพียง ลูเซียสและเมอร์ซิเดส อาเซลฮาร์ท ผู้เป็นบิดาและมารดาของเขาเท่านั้น ที่ยังคงชื่นชมและเอ็นดูเขาในเรื่องนี้ เพราะตัวตนที่แท้จริงของลูเซียส ก็เป็นหนึ่งในผู้ใช้เวทมนตร์ หรือที่ใครๆ ก็เรียกกันว่า พ่อมด

          บัลทัส ถูกเลี้ยงดูและเติบโตขึ้นมาในครอบครัวเล็กๆ ที่อาศัยอยู่ในเมืองสเตอร์ลิง ประเทศสก็อตแลนด์ เมอร์ซิเดสผู้เป็นแม่เปิดร้านอาหารเล็กๆในเมือง ส่วนลูเซียสผู้เป็นพ่อ ประกอบอาชีพนักโบราณคดี เลยทำให้เขาต้องเดินทางอยู่บ่อยครั้ง แต่ทุกๆครั้งที่ลูเซียสกลับมาถึงบ้าน เขาก็มักจะมีของฝากเป็นวัตถุโบราณ หรือเครื่องรางเวทมนตร์มาฝากบัลทัสอยู่บ่อยครั้ง บาร์ตี้มักชอบให้ลูเซียสเล่าถึงตำนานต่างๆ ที่เกี่ยวกับเวทมนตร์ให้ฟัง นานวันเข้า จากความชอบ ก็เริ่มกลายเป็นความหลงไหล และทำให้เด็กหนุ่มอยากที่จะศึกษาเกี่ยวกับเวทมนตร์และสิ่งมีชีวิตลึกลับให้มากขึ้น

          จนกระทั่งในช่วงที่บาร์ตี้อายุได้ 11 ปี ด้วยความซุกซน เด็กหนุ่มได้บังเอิญมาพบเข้ากับบันทึกของลูเซียส ที่เขียนเล่าถึงหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า 'เอลิเชียน' แม้จะไม่เข้าใจข้อมูลทั้งหมดในหน้ากระดาษ แต่ก็พอจับใจความได้ว่ามีการพูดถึงชุมชนของเหล่าผู้วิเศษหลากหลายเผ่าพันธ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กหนุ่มใฝ่ฝันถึงมาโดยตลอด และด้วยความบังเอิญ เด็กหนุ่มได้เผลออ่านคาถาภายในหน้าสมุดบันทึกอย่างไม่ตั้งใจ และทำให้เกิดแสงสว่างรอบตัวอย่างสวยงาม แต่แทนที่เด็กหนุ่มจะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขากับยินดีปรีดาและตะโกนลั่นด้วยความดีใจ “เวทมนตร์มีอยู่จริง!” ด้วยเสียงตะโกนของเขา ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ต้องรีบวิ่งเข้ามาดู และได้พบกับสิ่งที่บัลทัสทำลงไป เมื่อเห็นหน้าผู้เป็นพ่อ บัลทัสก็ยิ่งทวีความดีใจขึ้นไปอีก “พ่อฮะๆ เล่าเรื่องของเอลิเชียนให้บัสฟังหน่อยสิฮะ” รอยยิ้มและแววตาที่ใสซื่อของเด็กหนุ่ม ทำให้ผู้เป็นพ่อไม่อาจปิดบังความลับได้อีกต่อไป ลูเซียสค่อยๆเล่าเรื่องราวของหมู่บ้านผู้วิเศษให้บัลทัสฟังทีละเล็กทีละน้อย ทั้งเรื่องของเวทมนตร์ เผ่าพันธุ์อื่นที่พบเจอ ซึ่งรวมไปถึงสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ที่มีประวัติมายาวนาน แต่ถึงอย่างนั้น ณ ปัจจุบันที่หมู่บ้านเอลิเชียนก็ยังมีเหล่าผู้วิเศษจากหลากหลายเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ร่วมกันได่อย่างสันติ และทำให้ได้รู้ว่า ทุกครั้งที่ลูเซียสบอกว่าเขาออกไปทำงานต้องเดินทางไปที่นั่นที่นีนั้น แท้จริงแล้วจุดมุ่งหมายที่เขามุ่งหน้าไปทุกครั้งก็คือหมู่บ้านเอลิเชียน เพื่อที่จะได้เรียนรู้ศาสตร์ต่างๆเพิ่มเติม และแวะเวียนมาซื้อเครื่องรางวัตถุดิบเวทมนตร์ต่างๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ลูเซียสก็ยังคงย้ำเตือนบัลทัสไม่ให้แพร่งพรายเรื่องราวของตัวเองและชุมชนผู้วิเศษอย่างเอลิเชียน ด้วยเหตุผลบางประการ ซึ่งบัลทัสเองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาบัลทัสก็เริ่มศึกษาศาสตร์ของเวทมนตร์จากผู้เป็นพ่อมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวทมนตร์คาถา การปรุงยา การสร้างวัตถุเครื่องราง หรือแม้แต่การทำนายอนาคต แม้ทั้งหมดที่เรียนรู้มา เขาจะทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็เถอะ แต่เด็กหนุ่มก็มักจะเฝ้ารอการกลับมาของผู้เป็นพ่ออยู่เสมอ เพราะนั่นหมายความว่าเขาจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพิ่มขึ้น

          แต่แล้ววันหนึ่ง ในวันที่บัลทัสอายุได้ 23 ปี ถึงแม้ว่าเขาจะเรียนจบและสามารถเลือกเดินทางไปตามเส้นทางของตัวเองได้แล้ว แต่บัลทัสก็เลือกที่จะช่วยงานเมอร์ซิเดสผู้เป็นแม่อยู่ที่ร้านอาหาร และเรียนรู้ศาสตร์ของเวทมนตร์จากลูเซียสผู้เป็นพ่อที่เมืองสเตอร์ลิงแห่งนี้ต่อไป แต่การเฝ้ารอการกลับมาของลูเซียสนั้น จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน จวบจนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ผ่านไปเกือบครึ่งปีแล้วที่เขาและแม่ไม่ได้รับข่าวคราวใดๆ จากผู้เป็นพ่อเลย นั่นทำให้บัลทัสและเมอร์ซิเดสเริ่มกังวลถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูเซียส บัลทัสจึงได้ตัดสินใจที่จะออกเดินทางไปยังชุมชนเอริเชียนด้วยตัวเอง เพื่อตามหาสาเหตุของการหายตัวไปของลูเซียสผู้เป็นบิดา

โพสต์นี้แก้ไขล่าสุด: 05-11-2023, 11:18 AM โดย Balthus Azelheart