ตอบกระทู้
[ประวัติตัวละคร] Roxana Ruby Gallagher
05-31-2022, 09:51 PM
Roxana Ruby Gallagher ( ร็อกซานา รูบี้ กัลลาเกอร์ ) หรือ ร็อกซี่, ซานา Faceclaim by Cate Blanchett เกิดวันที่ 7 เดือนพฤศจิกายน ปีคริสต์ศักราชที่ 1678 อายุ 45 ปี ( 345 ปี ) เผ่าพันธุ์แวมไพร์ Biography :
เหตุที่เธอมีความทะเยอทะยานต่อทุกสิ่งอย่างยิ่งยวดนั่นเป็นเพราะ ‘ไรลีย์ รูบี้’ มารดาผู้ให้กำเนิดที่เป็นทั้งความรักและจุดอ่อนเพียงหนึ่งเดียวในคฤหาสน์เส็งเคร็งแห่งนี้ หลังจากตั้งครรภ์และคลอดร็อกซานาออกมาหล่อนก็ไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน อีกทั้งยังป่วยออด ๆ แอด ๆ อยู่บ่อยครั้ง กระนั้นไรลีย์ก็ยังเป็นแม่ที่เพียบพร้อมในสายตาของเธอแม้จะไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีเท่าไหร่ในฐานะภรรยาเอก อีกทั้งยังถูกปล่อยปละละเลยจากสามีอย่างเอลเลียต ร็อกซานาไม่เคยเห็นบิดามาก่อนนับตั้งแต่เกิดมา เหล่าคนรับใช้ในบ้านต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งเธอและแม่ถูกปล่อยลอยแพไปแล้ว ภรรยาที่อ่อนแอกับลูกที่ไม่ได้เรื่องจะไปมีค่าในสายตาของผู้นำตระกูลนักล่าแวมไพร์อย่างเอลเลียตได้อย่างไร เด็กน้อยสดับสิ่งเหล่านั้นมานับครั้งไม่ถ้วน จวบจนอายุครบ 10 ปี นั่นเป็นครั้งแรกที่ร็อกซานาได้พบกับพ่อจากความพยายามสืบเสาะตามหาด้วยตัวเอง เธอเพียงอยากขอของขวัญวันเกิดเป็นครั้งแรกในชีวิตจากบิดา มาดหมายว่าอยากให้เขาปฏิบัติกับไรลีย์ให้สมเกียรติภรรยาคนหนึ่ง อย่างน้อยก็เพียงแค่นั้น ไม่จำเป็นต้องสนใจเธอ แต่ใส่ใจไรลีย์เพียงสักเสี้ยวก็ยังดี สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงสายตาเหยียดหยามที่มองเธอราวกับเป็นแมลงน่ารังเกียจตัวหนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็แค่นหัวเราะ, จากไปกับคำพูด ‘ทำให้ข้าเห็นสิว่าเจ้าคู่ควร’ ตั้งแต่วันนั้นร็อกซานาก็ตระหนักได้ว่าสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอไม่มีค่าที่จะอยู่ในสายตาของเอลเลียต เขาไม่สนใจไรลีย์เพราะหล่อนใช้ประโยชน์ไม่ได้อีกต่อไป ลูกที่เกิดมาก็ช่างไร้ค่าและน่าสมเพช ‘หากอยากได้ความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้มีแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น’ ฟาร์ฮานัสทำให้เธอคิดแบบนั้น แน่นอนว่าร็อกซานาพึงระลึกอยู่เสมอว่าแม่ของเธอถูกปฏิบัติอย่างไรจากคนในตระกูล กระทั่งคนรับใช้ยังไม่เห็นหัว เพราะอยากให้ไรลีย์มีความสุข ไร้ซึ่งความยากลำบากไปตลอดชีวิตและได้รับการให้เกียรติในฐานะภรรยาของผู้นำตระกูลอย่างที่ควรจะเป็น เธอตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่เพื่อให้ได้มาซึ่งความแข็งแกร่งและการยอมรับ ทั้งหมดนั้นก็เพื่อปกป้องสิ่งที่ตนรักสุดหัวใจจนกลายมาเป็นร็อกซานา อาร์. ฟาร์ฮานัสในปัจจุบัน (20 ปี คริสต์ศักราชปีที่ 1698) ตัวเธอในตอนนั้นนับว่าเป็นวัยคึกคะนองอย่างหนักก็ว่าได้ ร็อกซานากระหายการล่าแวมไพร์ยิ่งกว่าสิ่งใด เจ้าหล่อนอาบเลือดอมนุษย์ตัวซีดมามากมาย การกระทำเหล่านั้นส่งเสริมให้จิตใจและบุคลิกของร็อกซานาเปลี่ยนไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ความสดใสร่าเริงถูกกลบทับด้วยรอยยิ้มชืดชาและความเลือดเย็น สารพัดสิ่งที่เป็นนิยามของคำว่า ‘ไม่ดี’ ร็อกซานามีมันทั้งหมด แต่เมื่อกลับมาเจอไรลีย์ สภาวะชวนขนหัวลุกแก่ผู้มองเหล่านั้นก็จะถูกสลัดทิ้งไป เหลือเพียง ‘ร็อกซี่ตัวน้อย’ ที่แสนดีและน่ารักเสมอในสายตาของผู้เป็นแม่ อย่างน้อยไรลีย์ รูบี้ก็ทำให้ตัวเธอยังคงความเป็นมนุษย์ไว้ได้อยู่เสมอมา และร็อกซานาหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้นตราบจนบั้นปลายสุดท้ายของชีวิต ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ตลอดไป ร็อกซานารู้ดี เพียงแต่การตายอย่างผิดธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับมารดาผู้ให้กำเนิดนี้เป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้อย่างถึงที่สุด ความโดดเด่นเกินไปทำให้ภัยอันตรายถาโถมเข้าใส่ตัวเอง ต่อให้ในตอนนั้นร็อกซานาจะผ่านโลกและมีประสบการณ์มากมายสมวัย 45 ปี (คริสต์ศักราชปีที่ 1723) อันรวมไปถึงเป็นผู้นำคนปัจจุบันของฟาร์ฮานัสแทนบิดาที่เกษียณตัวเองเพื่อให้เธอขึ้นปกครองตระกูลตั้งแต่ที่อายุครบ 27 ปีจนบัดนี้ แต่ ‘ไรลีย์ รูบี้’ ก็ยังเป็นจุดอ่อนอันใหญ่หลวงที่ไม่มีวันปกปิดได้แม้ในขณะนี้แม่จะแก่หง่อมจนแทบเดินไม่ไหว แต่เหล่าคนที่เกลียดชังแม่ลูกคู่นี้มาแต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยมีสามัญสำนึกมนุษย์ที่ดีให้กันอยู่แล้ว เหล่าลูกพี่ลูกน้องในฟาร์ฮานัสร่วมกันวางแผนกำจัดร็อกซานา แน่นอนว่าการจู่โจมตรงตัวเป็นเรื่องที่โง่เขลา คนขี้ขลาดพวกนั้นจึงเลือกใช้มารดาของเธอเป็นตัวประกัน พวกมันยอมจับมือกับกลุ่มแวมไพร์ที่อาฆาตแค้นต่อร็อกซานาเพื่อชิงตัวไรลีย์ไปดำเนินการบางอย่างที่จะทำให้ร็อกซานามีความรู้สึกอยู่ไม่สู้ตาย การถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ เดิมทีร็อกซานาควรจะมีแผนการที่จะจัดการผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดอย่างรัดกุมและทำให้พวกมันทรมานอย่างถึงที่สุด แต่เพียงแค่ได้ยินว่าแม่ของเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายจากแวมไพร์ โทสะในกายกลับเดือดพล่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ส่งผลให้เธอพาตัวเองไปอยู่ในกับดักที่ไม่ควรติดกับอย่างเต็มตัวและง่ายดายสำหรับพวกมันเสียเหลือเกิน ร็อกซานาเอาตัวเข้าแลก ล้างบางทั้งแวมไพร์และญาติสารเลว ทว่าขึ้นชื่อว่าเป็นถิ่นของพวกมันแล้วย่อมทำให้เธอเสียเปรียบ สุดท้ายร็อกซานาก็พ่ายแพ้ให้กับจำนวนที่มากเกินไป เธอบาดเจ็บปางตายและถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นพวกมันจากการดื่มเลือดแวมไพร์ในปริมาณมาก เป็นความอัปยศและเคียดแค้นเหลือคณานับในชีวิตนี้ แต่ก็มีสิ่งที่ทำให้ร็อกซานาได้รู้สึก ‘อยู่ไม่สู้ตาย’ จริง ๆ เหล่านักล่าในฟาร์ฮานัสรวมไปถึงบิดามายังที่เกิดเหตุราวกับถูกจับวางบทไว้เรียบร้อย ไรลีย์พยายามปกป้องลูกสาวของตนเองอย่างสุดชีวิต หล่อนปฏิเสธทั้งยังร้องไห้แทบขาดใจ บอกว่าร็อกซานาไม่ได้มีความผิด ในขณะที่คนที่เหลือต่างลงมติให้จำกัดเธอที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นแวมไพร์ และท้ายที่สุดมารดาผู้เป็นที่รักยิ่งก็ถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของอดีตผู้นำตระกูลฟาร์ฮานัส คำสั่งเสียสุดท้ายของหล่อนบอกกับเธอไว้ว่า ‘จงมีชีวิตอยู่ต่อไป’ ร็อกซานาจดจำได้ขึ้นใจในตอนที่หนีตายออกมาจากสถานที่เกิดเหตุ เธอเกลียดตัวเอง, เกลียดตระกูล รวมไปถึงเกลียดชังโลกใบนี้ ไม่ได้เกลียดที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นอสุรกายที่ชังหนักหนาอย่างแวมไพร์ แต่เกลียดที่ตัวเองไม่สามารถปกป้องคนที่รักที่สุดไว้ได้ หลังระหกระเหินเร่ร่อนมาหลายร้อยปี สภาพแวดล้อมที่ถูกเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ การถูกหักหลัง ความไว้เนื้อเชื่อใจ กระทั่งเหตุการณ์ที่ทำให้ร็อกซานามีความคิดและบุคลิกเปลี่ยนไปราวกับคนละคนในชั่วขณะหนึ่ง ท้ายที่สุดก็ได้พบเดเมียน แวมไพร์แห่งกัลลาเกอร์ ร็อกซานาได้รับความช่วยเหลือจากเขามากมาย ได้เรียนรู้และซ่อมแซมแผลทางใจบางส่วนของตัวเอง ทั้งเดเมียนและเหล่าพี่น้องของเขาทำให้เธอได้รู้จักกับคำว่า 'ครอบครัว' อีกครั้งหลังจากที่สูญเสียสิ่งเหล่านั้นไป สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมกับตระกูลกัลลาเกอร์และเดินทางตามเดเมียนกับเมลินดามาใช้ชีวิตอยู่ในเอลิเชียน Personality :
หลังจากที่ไรลีย์จากไปเพราะพยายามจะปกป้องเธอ ร็อกซานาก็เอาแต่พร่ำโทษตัวเองมาโดยตลอด ยามอยู่คนเดียวมักแผ่กลิ่นอายความเศร้าออกมาเป็นนิจ หมกมุ่นกับเรื่องในอดีตและไม่สามารถก้าวขาออกจากฝันร้ายได้ กับบุคคลทั่วไปร็อกซานาดูเป็นคนที่เข้าหาได้ง่าย แต่ในความเป็นจริงนั้นเธอขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์ไว้ชัดเจน ยามใดที่ได้อยู่ตามลำพังจะเพิ่มความชืดชาและไร้อารมณ์ขึ้นมาก ลึก ๆ แล้วกับคนที่เธอไว้ใจและภักดีจะไม่มีกำแพงใดกั้นระยะห่างอยู่ เพราะทั้งชีวิตไม่เคยได้รับมิตรภาพที่แท้จริงมาตั้งแต่เด็กจึงส่งผลให้เป็นคนที่เคลือบแคลงต่อความสัมพันธ์ได้ง่าย ทว่าหากได้รับความไว้วางใจจากเธอแล้ว ร็อกซานาก็พร้อมที่จะเชื่อใจและทำทุกอย่างเพื่อเขาหรือเธอคนนั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อุปนิสัยของเธอสามารถเปลี่ยนไปตามคนที่พูดคุย ขึ้นอยู่กับว่าคู่สนทนา ณ ขณะนั้นเป็นใคร โพสต์นี้แก้ไขล่าสุด: 01-22-2023, 05:17 AM โดย Roxana R. Gallagher
|
ผู้ที่กำลังดูกระทู้นี้: |
1 ผู้เยี่ยมชม |