ประวัติตัวละคร Valeska Ivrea Lorentzen

• January 21, 2000
• 04:44 am
• Full Moon

Valeska Ivrea Lorentzen

TW : DEATH / VIOLENCE

ชื่อตัวละคร: วาเลสก้า อิวาเรีย ลอเรนเซน (Valeska Ivrea Lorentzen)

ชื่อเล่น : เวล / ลูก้า

วัน เดือน ปีเกิด : 21 มกราคม 2000 

อายุ :  25 ปี (อายุร่างกาย 23 ปี)

เผ่าพันธุ์ : แวมไพร์

อุปนิสัย : วาเลสก้าเป็นคนขี้แกล้ง และมักวางท่าทีเป็นมิตรอยู่เสมอ เธอเป็นคนตรงไปตรงมาถึงแม้ส่วนใหญ่เธอจะเลือกปิดปากเงียบก็ตาม แน่นอนว่าเธอรักความยุติธรรม เชื่อมั่นในตัวเอง และไม่กลัวที่จะเสี่ยงในเรื่องที่เธอคิดว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เธอพยายามจะผูกมิตรกับทุกคนที่เข้ามาในชีวิต แต่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเผลอทำใครตกหล่นไปตามกาลเวลาหรือเปล่า เพราะแสดงออกไม่เก่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับความรัก เธอจะจึงมักทำเป็นกล้าในตอนแรกแต่สุดท้ายก็เป็นฝ่ายถอยหนีออกมา เธอไม่ชอบให้คนอื่นต้องเดือดร้อนเพราะตัวเองจึงชอบจัดการปัญหาด้วยตนเองโดยยอมไม่ขอความช่วยเหลือ จนนำพาเรื่องยุ่งยากมาหาตัวเองอยู่เสมอ

ประวัติความเป็นมา :

วาเลสก้า อิวาเรีย ลอเรนเซน ลืมตาดูโลกในช่วงเช้ามืดของฤดูหนาวที่เมืองเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของสเปน เธอเป็นลูกสาวคนโตของเฮนรีเอ็ตตา ลอเรนเซน อดีตศาสตราจารย์วิชาชีววิทยาประจำมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเพนซิลเวเนีย และลูกสาวคนเดียวของคาร์ลอส ยูซูปอฟ ศัลยแพทย์หนุ่มที่จากไปก่อนที่เธอจะลืมตาดูโลก แม่บอกกับเธอเสมอว่าอย่ากลัวที่จะเรียนรู้ หรือลองสิ่งใหม่ ๆ วาเลสก้าในวัยเด็กจึงไม่เคยกลัวที่จะแหกกฎ เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกเสียด้วยซ้ำ เธอมองโลกในแง่ดี รักสงบ แต่ชอบความวุ่นวายเล็ก ๆ น้อย เพราะมันถือเป็นเรื่องบันเทิงสำหรับชีวิตอันแสนสงบสุขของเธอ

วาเลสก้าไม่เคยพบพ่อของเธอ จากคำบอกเล่าของผู้เป็นแม่เธอรู้เพียงแค่ว่าเขาเป็นศัลยแพทย์ชื่อดังผู้อุทิศชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น น่าเสียดายที่อุบัติเหตุทางการบินพรากชีวิตเขาไปอย่างไม่มีวันกลับก่อนที่เธอจะเกิดเสียอีก แม่ของเธอที่ไม่อาจทนอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำจึงหอบข้าวของข้ามมหาสมุทรมาลงหลักปักฐานในสหราชอาณาจักร เฮนรีเอ็ตตาแต่งงานใหม่กับนักธุรกิจชาวอังกฤษและให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง ทั้งสามเติบโตที่ลอนดอน อันที่จริงอาจจะไม่นับรวมวาเลสก้าที่ถูกส่งไปเรียนในโรงเรียนประจำที่อเมริกาตั้งแต่ยังเด็ก จะกลับมาก็เพียงช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเท่านั้น สามพี่น้องไม่ได้สนิทกันแบบที่คนภายนอกเข้าใจ มักจะมีปากเสียงกันบ่อย ๆ ด้วยเรื่องเล็กน้อย ๆ แม้วาเลสก้าจะเป็นลูกสาวคนโตแต่เธอแทบไม่มีส่วนในความวุ่นวายของธุรกิจครอบครัว บทสนทนาระหว่างเธอและพ่อเลี้ยงนั้นแทบจะเป็นการถามสารทุกข์สุกดิบตามหน้าที่ 

เหตุการ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนทำให้หลังเรียนจบมัธยมปลายบ้านหลังเล็กในรัฐเพนซิลเวเนียที่แม่ของเธอเคยอาศัยอยู่สมัยยังเป็นศาสตราจารย์กลายเป็นบ้านอีกหลังของเธอ ในตอนนั้นวาเลสก้าในวัยยี่สิบสามปีกลายเป็นนักศึกษาปริญญาโทภาคค่ำ สาขากฎหมายระหว่างประเทศกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ใช้เวลาว่างอันน้อยนิดทำงานพาร์ทไทม์เล่นดนตรีในแจ๊ซคลับ บางครั้งแม่และน้องสาวของเธอก็แวะมาเยี่ยมเยียนเพราะมีเหตุต้องหลบหนีความวุ่นวายจากเมืองลอนดอน

คืนหนึ่งในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ใบไม้เพิ่งเปลี่ยนสี วาเลสก้าที่หัวเสียกับความกวนประสาทของน้องสาวหนีความวุ่นวายจากบ้านหลังเล็กมาเดินสงบสติอารมณ์ในช่วงกลางคืนตามเส้นทางเดิมที่เธอมันจะออกมาวิ่งออกกำลังกายในช่วยกลางวัน น่าแปลกที่เมื่อตกกลางคืนสิ่งต่าง ๆ ดูแปลกไป แม้จะใช้เส้นทางเดิมแต่กลับรู้สึกเหมือนมีบางอย่างกำลังตามเธอมา ใกล้เข้ามาเรื่อง ๆ จากฝีเท้าที่เดินปกติเริ่มก้าวถี่ก่อนจะออกวิ่งอย่างตื่นตระหนก

เธอไม่เคยเชื่อตำนานเรื่องเล่าของป่าแห่งเทือกเขาแอปพาเลเชียน แวมไพร์ไม่ได้ถูกกล่าวถึงมากนักในตำนานเหล่านั้น แต่พวกเขามาที่นี่ในคืนนี้ออกล่าคนที่โง่พอจะไม่เชื่อในตำนานของคนรุ่นเก่า ความกลัวที่เข้าครอบงำทำให้เธอวิ่งต่อไปโดยไม่เหลียวมองด้านหลัง แต่ไม่ว่าจะวิ่งหนีสักเพียงใดเธอก็ยังคงรับรู้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา สัญชาตญาณบอกให้เธอหนีให้เร็วที่สุด เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่ตามเธอมาคืออะไรกันแน่และไม่รู้ว่าต้องหนีอีกนานเท่าไหร่เธอจึงหาที่ซ่อน

วาเลสก้าซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ด้วยหัวใจที่เต้นรัว เสียงฝีเท้าที่ตามมาค่อย ๆ เงียบลง แทนที่ด้วยเสียงแหบพร่าทำให้เธอขนลุกซู่ ด้วยเขี้ยวสีขาวที่กัดเข้าที่คอเธอรู้สึกถึงอ้อมกอดอันหนาวเย็น และสายโลหิตที่ถูกสูบออกไปอย่างหิวกระหาย ตอนนั้นเธอรู้สึกราวกับว่ากำลังจะสูญเสียทั้งร่างกายและจิตวิญญาณไปชั่วนิรันดร์ ทำได้เพียงแต่ภาวนาขอให้มันจบลงเสียที และนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายก่อนที่สติของเธอจะดับวูบไป

หลายราตรีพ้นผ่านวาเลสก้ากลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในห้องที่เธอไม่คุ้นเคย เธอสับสนและหวาดกลัว ผิวกายที่เย็นเฉียบและสัมผัสรับรู้ที่เปลี่ยนไป เธอรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพียงไม่กี่อึดใจเมื่อประตูห้องถูกเปิดออกเธอก็ได้รับคำตอบ แต่เรื่องราวที่หลุดออกจากปากของคนตรงหน้านั้นเกินกว่าที่เธอจะรับไหว แวมไพร์ การล่า และเหยื่อ

เธอใช้เวลาจับต้นชนปลายอยู่นานกว่าจะเข้าใจว่าตนได้กลายเป็นสิ่งอื่นที่ไม่อาจอยู่เดินท่ามกลางแสงตะวันได้อีกต่อไป จากผู้ถูกล่ากลายเป็นผู้ล่า จากทิวากลายเป็นราตรี เธอไม่อาจหนีจากสัญชาตญาณของแวมไพร์ และไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมได้อีกหลังจากไตร่ตรองจนถี่ถ้วนกอปรกับคำแนะนำของผู้ที่ช่วยเหลือเธอเอาไว้ “หมู่บ้านเอลิเชียน” จึงเป็นทางเลือกสุดท้าย และเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เธอสามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ที่ได้รับมา แต่ใครจะรู้ว่ามันจะใช้เวลาเพียงใด เธอใช้เวลาไม่นานในการบอกลาครอบครัว และเพื่อนฝูง หลังจากที่จัดการเรื่องราวส่วนใหญ่เรียบร้อย จึงเป็นอีกครั้งที่เรื่องราวบทถัดไปในบทละครชีวิตสั้น ๆ ของวาเลสก้าต้องดำเนินไปเพียงลำพังในหมู่บ้านเอลิเชียน

การตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านเปลี่ยนความคิดหลาย ๆ อย่างของเธอไป รวมถึงทำให้เธอได้พบกับประสบการณ์ที่ตนเองก็ไม่คิดว่าจะได้เผชิญหน้า ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปเกาะประหลาดที่มีทั้งนางเงือก โจรสลัด และภูเขาไฟ รวมถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านช่วงเดือนตุลาคม น่าแปลกที่เธอกลับรู้สึกว่าชีวิตคงจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไปในหมู่บ้านแห่งนี้

FACE CLAIM : Yael Shelbia

HP %

loading..

โพสต์นี้แก้ไขล่าสุด: 04-09-2025, 02:43 PM โดย Valeska I. Lorentzen

Relationship

VAMPI

Abel Kaas

It's Complicated

VAMPI

Abigail Abel

The Lost Child

 

FAIRY

Ashlyn Gonzalez

The Cutest Fairy

VAMPI

Athenia V. Seymour

The Tiney Tiny Vampire

WERE

Belgin Yervant

The  Friendly One

 

HUMA

Bellanie Avendell

The Mega Clever

 

VAMPI

Berenice L. Beaufort

The Young Miss

FAIRY

Blair Vernier

The Fairy Godmother

 

WERE

Blue Willoughby

The Blue Pineapple Walkie-talkie

FAIRY

Chandler C. Agreste

The Mysterious Dimension Survivor

HUMA

Charlotte L. Strelitz

The Pretty Girl

 

FAIRY

Daphne Agreste

The Prettiest Fairy - House Owner

WERE

Derek Baines

The  Treasures Protector

WERE

Desdemona E. Zeth

The Fearless One

 

VAMPI

Estevan Kaiser

The Evaleria Promise

HUMA

Eulicienne F. Howard

Younger Brother

 

VAMPI

Felicienne F. Howard

Younger Sister

WERE

Genmura R. Kholodov

The Sweetest Boy

FAIRY

Gianna M. Palmyra

The Pretty Little Fairy

WERE

Gwen Darcy

The Little Wuff Wuff - Housemate

FAIRY

Hans X. Frost

The Volcanic Survivor

 

FAIRY

Hansel Legarius

The Little Brother

 

VAMPI

Hornwort H. Isac

The Mystery One

HUMA

Jonathan K. Munson

First Friend In Elysian - The Sharp Shooter

HUMA

Josephine Starling

The Technician Expert

 

WERE

Kamin Jones

The Best Buddy - Housemate

MERM

Kit Leith

The Hotpot Tablemate

 

WIZA

Klaus T. Lance

The Hypnosis Survivor

WERE

Kylo Kellogg

The Powerful Werewolf

 

VAMPI

Leigh H. Saunderson

The Excellency

 

WITC

Letisia B. Flozentine

The Butterfly Witch

 

VAMPI

Lilith P. Kaiser

The One With A Siver Knife

WERE

Logan D. Schneider

The  Musician

WITC

Louisa B. Flozentine

The Powerful Witch

WERE

Lancelot Kalzer

The Blue Pineapple Walkie-talkie

VAMPI

Marcus K. Matinez

The Boyish Vampire

MERM

Marine Pearlquoise

The Pretty Little Mermaid

VAMPI

Melvenius V. Clark

The Beauty Queen

VAMPI

Miner Z. Alfred

The Cold One

WIZA

Miller L. Alan

The Helper

 

VAMPI

Mikael F. Kaiser

The Good Friend of Mine

WITC

Ninette Archer

The Cutie Witch

 

VAMPI

Noah K. Galbraith

The Unexpected Good Friend

VAMPI

Penelope G. Williams

The Pretty One

 

WITC

Pinkberry Perlman

The Sweet Tooth Witch

VAMPI

Reiju Z. Velaqueous

The Little Sister

 

MERM

Regina C. Aquaborne

The Mermaid Leader

VAMPI

Riona Florentia

The Evaleria Promise

MERM

Rowena T. Frost

The Icy Queen

 

VAMPI

Saviour Kartheiser

The ???

VAMPI

Silvia N. Velaqueous

The Fierce One

 

VAMPI

Sylus N. Velaqueous

The Older Brother

 

VAMPI

Vanessa Z. Velaqueous

The Reliable One

 

MERM

Violette C. Leclaire

The Cuite

 

VAMPI

Zantino R. Velaqueous

The Seeker

 

WITC

Zinnia A. Lewis

The Healer

 

FAIRY

Zoe Cameron

The Sunflower

โพสต์นี้แก้ไขล่าสุด: 01-26-2025, 03:21 AM โดย Valeska I. Lorentzen

« I can't quite remember - what guided me this way, may I stand unshaken - amid, amidst a crashing world »

NAMEABEL KAAS

NICKNAME???

BIRTH DATE 27 September 1946

AGES 78 yrs (25 yrs)

CLANVampire

height 188 cm

FACE CLAIM Loic Williams

— you are safe here

Biography

FACTS

Hei! Let's rolling

character

อาเบลเป็นคนที่มีความซับซ้อนที่แม้แต่ตัวเข้าเองก็ไม่เข้าใจ เสน่ห์ของเขามันจะดึงดูดผู้คนแต่ก็ผลักไสผู้คนไปพร้อม ๆ กัน ภายนอกเขาดูขี้เล่นและเจ้าเล่ห์ มักชอบหยอกล้อและใช้มุกจีบคนรอบตัว ถึงแม้จะดูเหมือนคนเจ้าชู้ หว่านเสน่ห์ไม่เลือกหน้า แต่แท้จริงแล้ว อาเบลมีเกราะป้องกันตัวเป็นกำแพงสูงที่ไม่รู้ว่าจะมีใครทำลายได้หรือไม่ในชั่วงชีวิตอันเป็นนิรันดร์ อาเบลแทบจะไม่เคยเปิดใจให้ใครจริงจัง เขาใช้เสน่ห์และการแกล้งพูดให้คลุมเครือเพื่อรักษาระยะห่างทางอารมณ์เพราะผลจากบาดแผลในอดีตที่เขายังไม่อาจลืมได้ ความรักที่สูญเสียไปทำให้เขากลายเป็นคนที่ไม่ยึดติดและเลือกที่จะใช้ชีวิตตามลำพัง แม้จะมีผู้คนล้อมรอบก็ตาม  นานวันเข้าเขาก็ผูดติกกับการใช้ชีวิตอิสระ ไม่ชอบถูกผูกมัด และมักหาความสุขผ่านสิ่งเล็กน้อยรอบตัว

เขาเป็นนักดนตรีที่มีพรสวรรค์และชื่นชอบดนตรี แต่เขากลับมีความรู้สึกว่างเปล่าที่ไม่อาจเติมเต็มได้ง่าย ๆ ความโดดเดี่ยวเป็นเงาที่ติดตามเขาเสมอมา แม้จะมีความสุขชั่วคราวจากการพบเจอคนใหม่ ๆ แต่ความสัมพันธ์เหล่านั้นไม่เคยลงลึกนัก ทุกค่ำคืนผ่านไปพร้อมกับความรู้สึกที่เหมือนเดิม และแม้ภายนอกจะดูสนุกสนาน แต่ภายในเขาก็ยังรู้สึกโหยหาใครสักคนที่สามารถเชื่อมต่อกับเขาได้อย่างแท้จริง

Biography

อาเบล คาส ชายหนุ่มเชื้อชาตินอร์เวย์เป็นลูกชายคนที่สองของบาทหลวงนอร์ดิกผู้เคร่งศาสนา ครอบครัวของอาเบลอพยพไปอเมริกาตั้งแต่เขายังเด็กด้วยหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตในดินแดนแห่งโอกาสและสร้างอนาคตที่มั่นคง แต่การใช้ชีวิตท่ามกลางสังคมศาสนาคริสต์ที่เข้มงวดนั้นไม่สามารถหยุดยั้งความอยากรู้อยากเห็นของอาเบลที่มุ่งไปสู่เส้นทางตรงข้างกับที่ครอบครัวของเขาได้วางเอาไว้

เขารักเสียงดนตรีอย่างสุดใจและพบว่ามันเป็นการปลดปล่อยตัวเองจากกรอบศาสนาที่ถูกยัดเยียดตั้งแต่เด็ก ความหลงใหลในเสียงเพลงและอิสระแห่งดนตรีตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น ทำให้เขาเลือกเดินทางในอาชีพสายดนตรีเข้าไปพัวพันในวงการดนตรีที่เต็มไปด้วยแสงสีตั้งแต่ช่วงยุคหกศูนย์ในยุคแห่งความรุ่งโรจน์ของเพลงร็อกแอนด์โรล ยุคที่เสียงดนตรีกำลังเปลี่ยนแปลงสังคม ความมืดสลัวของไนต์คลับ แสงไฟกะพริบ และสารเสพติดที่มอมเมากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา จนอาเบลกลายเป็นใครอีกคนที่เขาไม่เคยคิดจะเป็น

ชีวิตของอาเบลเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลเมื่อเขาได้พบกับชายผู้หนึ่ง ชายที่ไม่ใช่เพียงคู่รัก แต่เป็นคนที่ทำให้เขารู้สึกถึงการเป็นส่วนหนึ่งของใครสักคนอย่างแท้จริง ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่เป็นทั้งความหลงใหลและความร้อนแรง แต่ในความสุขนั้นเขากลับรู้สึกกลัว กลัวว่าช่วงเวลาที่มีร่วมกันจะมีวันสิ้นสุด แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่ อาเบลไม่ลังเลที่จะมอบชีวิตของตนให้กับชายคนรัก เลือกที่จะละทิ้งความเป็นมนุษย์และเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นแวมไพร์ แม้จะต้องเสียสิ่งที่เคยเป็นอยู่ทั้งหมดเพื่อแลกกับชีวิตนิรันดร์ เขาเชื่อว่าคำว่าตลอดกาลจะช่วยรักษาความรักของพวกเขาไว้ไม่ให้จางหาย

ทว่า ความเป็นนิรันดร์ไม่สามารถหล่อเลี้ยงความรักได้ตลอดไป เมื่อวันเวลาผ่านไปคนรักของเขากลับค่อย ๆ เปลี่ยนไป ในเช้าวันหนึ่งข้างกายของเขากลับว่างเปล่ามีเพียงจดหมายลาที่ถูกทิ้งเอาไว้ ไม่ใช่การร่ำลาเพียงชั่วครู่แต่กลับเป็นตลอดกาล การสูญเสียในครั้งนั้นกลายเป็นบาดแผลลึกในหัวใจของอาเบล เขาไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน แต่คิดหวังไว้ว่าสักวันคงจะต้องได้พบกันอีก เขาจึงรอ รอมาโดยตลอด แม้เวลาของเขาจะหยุดนิ่ง เขากลับรู้สึกเหมือนถูกพันธนาการด้วยความเจ็บปวดที่ไม่เคยเลือนหาย

ตั้งแต่วันนั้นมาชายหนุ่มใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมาย เขาสูญเสียทุกสิ่งที่เคยมีความหมาย ความโดดเดี่ยวกลายเป็นเงาที่อยู่กับเขาเสมอมา แม้จะมีคนเข้ามาข้างกายมากมาย แต่ก็ไม่เคยมีใครที่สามารถแทนที่คนรักในอดีตได้ อาเบลใช้ชีวิตท่ามกลางรัตติกาล ผู้คนที่รู้จักเขาเห็นเพียงภาพลักษณ์ของชายผู้หล่อเหลาและลึกลับ นักดนตรีผู้มากพรสวรรค์ที่สื่อสารความเศร้าและความปรารถนาผ่านเสียงเพลง เสียงเพลงของอาเบลกลายเป็นการสะท้อนความว่างเปล่าภายในจิตใจของเขา ความรักที่เขาเคยยึดมั่นว่าจะแบ่งปันกับใครสักคนไปชั่วนิรันดร์กลับกลายเป็นเพียงความว่างเปล่า

แม้อาเบลจะใช้ชีวิตอย่างลำพังในรัตติกาล แต่ก็ไม่เคยอยู่เพียงลำพังจริง ๆ เตียงของเขาไม่เคยว่างเปล่า เพราะความโดดเดี่ยวทำให้อาเบลหาคนข้างกายอยู่เสมอ แม้จะเพียงชั่วครู่เพียงเพื่อบรรเทาอาการนอนไม่หลับที่ติดตัวมาตั้งแต่ที่เขาเสียคนรักไป แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมาเป็นเพียงความอุ่นชั่วคราว ไม่เคยมีใครเติมเต็มช่องว่างในหัวใจของเขาได้อีก ทุกค่ำคืนผ่านไปอย่างเชื่องช้าและเดียวดาย แม้เขาจะโอบกอดใครสักคนไว้ แต่ในใจลึก ๆ เขาก็รู้ว่าความสัมพันธ์เหล่านี้เป็นเพียงเงาเลือนรางของความรักที่เขาเคยรู้จัก ไม่มีใครสามารถเข้าถึงหัวใจเขาได้เหมือนกับชายผู้เปลี่ยนเขาเป็นแวมไพร์ คำว่าตลอดกาลที่เคยเชื่อมั่นกลับกลายเป็นคำที่แสนเจ็บปวด ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่ถาวร เขาจึงร่อนเร่ไปทั่ว และหมู่บ้านเอลิเชียนก็คงจะเป็นเพียงจุดหมายหนึ่งที่เขาคงเข้ามาแล้วผ่านไป

The name "Abel" comes from the Hebrew root 'Hevel', which means 'breath' or 'nothing.' The name has a deep meaning and refers to the transience of life therefore often connotes loss, the struggle for acceptance, and a meaning that reflects the uncertainty and impermanence of life.

ABEL

KAAS

Kaas family appeared in the Middle Ages, and they have been noble since time immemorial. Kaas is the name of two related Danish noble families from Jutland, which were and are, respectively, two of the preeminent families of the Danish Uradel or ancient high nobility, which were represented in the Council of the Realm. Like all old noble families in Scandinavia, the families are untitled, although individual members in the past held the rank of knight.

Trondheim

Abel's family is from Trondheim, a city with a rich history and culture in Norway. The city was once the capital of the Viking Age and is home to Nidaros Cathedral, which is considered the center of Christianity in Norway. The devout neighborhood and way of life in the past must have influenced Abel's and his family's early life.