ตอบกระทู้
[ประวัติตัวละคร] Samanthia Lavigne
แวมไพร์ระดับ 2

หมอกทมิฬ

ชุดตัวละคร
เครื่องรางเผ่าพันธุ์
สมบัติล้ำค่า
#1
[Image: 8HEAS0f.png]

[Image: EFi9Z7j.jpg]
TW : เลือด, การทำร้ายและทรมาณร่างกาย, การกล่าวถึงความตาย, การฆ่าตัวตาย
[Image: dGhx9GM.png]

ชื่อตัวละครภาษาอังกฤษ : Samanthia Lavigne
ชื่อตัวละครภาษาไทย : ซาแมนเธีย ลาวีน
ชื่อเล่น / ชื่ออื่น ๆ : แซม, ซาเอะ, เธีย (เฉพาะคนที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น)
วัน/เดือน/ปีเกิด : 21 ธันวาคม 1801
อายุ : 222 ปี (อายุร่างกาย 30 ปี)
เผ่าพันธุ์ : แวมไพร์

[Image: sDgWVR9.png]

ประวัติความเป็นมา :
ซาแมนเธีย หรือชื่อในอดีตอย่าง โฮโจ ซาเอะ  ลูกสาวเพียงคนเดียวของตระกูลโฮโจ ครอบครัวนักการค้าที่ร่ำรวยมากในกลางยุคเอโดะของประเทศญี่ปุ่น ตระกูลโฮโจเป็นตระกูลค้าผ้าฝ้ายคุณภาพที่มั่งคั่ง อีกทั้งเป็นเพียงตระกูลเดียวที่ทางจักรพรรดิโคกากุ ผู้ปกครองประเทศญี่ปุ่น ณ ตอนนั้นติดต่อค้าขายเป็นประจำด้วย ซาเอะและครอบครัวจึงมักได้เข้าออกวังราวกับเป็นบ้านหลังที่สอง เช่นนั้นเอง ในคืนหนึ่งที่เธอเพิ่งทำการจัดส่งสินค้าและร่วมทานอาหารกับเหล่านางใน ซาเอะได้พบเข้ากับหนุ่มร่างสูงใบหน้ายุโรปคนหนึ่งเข้าด้วยความบังเอิญ เขาอ้างว่าเขาคือตัวแทนคณะขุนนางราชวงศ์ฮันโนเฟอร์จากสหราชอาณาจักร ที่ถูกส่งมาทำงานเพื่อสานสัมพันธ์ไมตรีกับประเทศญี่ปุ่น ด้วยใบหน้าของเขาที่ออกไปทางคอเคซอยด์ที่ดูแปลกตา สีผิวที่ขาวซีดและส่วนสูงที่ยากจะเอื้อมถึง ทำให้ซาเอะรู้สึกสนใจในตัวของเขาตรงหน้าเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นเธอจึงลักลอบเข้าวังมาทั้งที่ไม่มีธุระใดบ่อยมากขึ้น หรือบางครั้งหลังจากที่ทำการส่งสินค้าและทานอาหารเสร็จ เธอมักจะใช้เวลาอยู่ในพื้นที่วังจนดึกดื่น สิ่งแปลกที่ซาเอะสังเกตุได้ สำหรับชายคนดังกล่าวที่เธอทราบชื่อภายหลังว่าเขาคือ เซอร์อาร์ธีมิอุส ลุดวิก แมนเดวิลล์ นั่นก็คือการที่เธอสามารถพบเขาได้ในยามค่ำคืนเท่านั้น หากเธอเขาไปพบเจอเขาในเวลากลางวัน เธอจะต้องสื่อสารกับเขาผ่านประตูกระดาษสาของตำหนักอาคันตุกะเท่านั้น ซาเอะเริ่มสนิทสนมกับชายผู้นี้มากขึ้น กว่าเขาและเธอจะยอมรับว่ามีใจให้กันและกัน ก็เป็นเวลาหนึ่งปีกว่าแล้ว

วันหนึ่ง พ่อของซาเอะเริ่มสังเกตได้ถึงพฤติกรรมที่ผิดแปลกไป เขาได้ส่งคนไปตามสืบจนรู้เรื่องราวทั้งหมด เขาจึงเตรียมการเผด็จศึกลูกสาวหัวรั้นคนนี้ ด้วยการจับเธอแต่งงานกับผู้อื่นให้เร็วที่สุดและจัดการกับท่านเซอร์ให้สิ้นซาก ซาเอะที่ไหวตัวทันจึงรีบนำเรื่องนี้ไปบอกด้วยความกลัวที่จะต้องเสียรักข้างเดียวคนนี้ไป แต่ท่านเซอร์กลับไม่ได้มีที่ท่าร้อนใจอันใด เขาบอกให้เธอเข้ามาหลบหนีในตำหนักที่เขาอยู่เสียก่อน เขาจะเป็นคนไป เจรจา เรื่องนี้ด้วยตนเอง และเมื่อทุกอย่างคลี่คลายแล้ว เขาจะกลับมารับเธอออกไปจากประเทศนี้เอง ด้วยความรักที่ซาเอะมีให้ท่านเซอร์ เธอจึงเชื่อฟังและยอมอยู่ที่นี่ ผ่านไปหลายชั่วโมงของการเจรจาของท่านเซอร์ ในที่สุดเขาก็กลับมาหาเธอที่ตำหนักในยามดึก แต่คราวนี้เขากลับไม่ได้พูดอะไรมาก นอกจากยิ้มและบอกให้ซาเอะรีบตามขึ้นเรือมา เธอและเขาต้องออกจากที่นี่ไปโดยเร็ว ซาเอะตอบตกลงอีกฝ่ายอย่างไม่มีข้อกังขาด้วยความรัก และหนีตามขึ้นเรือสำราญไปกับเหล่าคณะขุนนางและท่านเซอร์ โดยที่ไม่รู้ว่าครอบครัวโฮโจนั้นถูกสังหารลงจนไม่เหลือใคร และทิ้งศพที่ไม่มีเลือดแม้แต่หยดเดียวไว้ในบ้านอย่างปริศนา

แปดเดือนผ่านไปของการเดินทางในทะเล หลังจากที่เรือสำราญไม้ลำใหญ่เทียบท่าที่ประเทศอังกฤษ ซาเอะและเซอร์อาร์ธีมิอุสตกลงปลงใจเข้าพิธีสมรสกันในที่สุด ซาเอะได้กลายเป็นภรรยาคนแรกของท่านเซอร์ พร้อมทั้งตั้งชื่อใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมายของสหราชอาณาจักรจนกลายเป็น ซาแมนเธีย แมนเดวิลล์ ชีวิตรักของเธอสงบสุขดี หากแต่ญาติพี่น้องรอบตัวของท่านเซอร์ต่างรังเกียจหญิงสาวคนนี้เข้าไส้ เพราะนอกจากเธอจะเป็นหญิงเชื้อชาติเอเชียที่พวกเขามองว่าเป็นทาสเสมอมาแล้ว เธอก็ยังไม่ใช่ “สะใภ้ในอุดมคติ” ที่ครอบครัวนี้ต้องการอีก เหล่าญาติบ้านแมนเดวิลล์ นำโดยแม่ของท่านเซอร์อาร์ธีมิอุส พยายามคอยหาทางจำกัดแซมให้พ้นไปจากบ้านหลังนี้ให้ได้ ทั้งกลั่นแกล้ง ดูถูกเหยียดหยามชาติเกิด และบังคับให้เธอทำในสิ่งที่ทรมาณตนเอง แต่ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์เหล่านั้น ก็จะมีท่านเซอร์คอยช่วยเหลือภรรยาสุดที่รักไว้เสมอ และแซมเองยังเป็นคนที่ความอดทนสูงมากพอด้วย สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ที่รังเกียจแซมมากขึ้นเรื่อย ๆ

จนในที่สุดคนพวกนั้นตัดสินใจขั้นเด็ดขาด คือการ จบชีวิต ของแซมให้สิ้นซาก พวกเขาวางแผนหลอกล่อให้อาร์ธีมิอุสเดินทางออกไปต่างเมืองเป็นเวลานาน ปล่อยให้หญิงสาวอยู่ภายในบ้านกับเหล่าญาติเพียงลำพัง เมื่อสบโอกาส พวกเขาจึงจับแซมไปไว้ในห้องใต้ดินของบ้าน พร้อมเริ่มบรรเลงบทกวีแห่งความทรมาณให้แก่แซมทันที ทั้งเฆี่ยน ตี ทุบ สารพัดการโจมตีทุกอย่างที่พวกมันจะทำได้ พร้อมทั้งยังเปิดเผยความจริงให้แก่หญิงสาวไร้ทางสู้ได้ทราบ ว่าแท้จริงแล้วบ้านแมนเดวิลล์นั้น คือเหล่าแวมไพร์ที่ทรงอิทธิพลมากตระกูลหนึ่งในอังกฤษ รวมถึงท่านเซอร์ที่เธอแต่งงานด้วยก็เป็นแวมไพร์เช่นเดียวกัน เมื่อเผยความจริงแล้ว เหล่าแวมไพร์ผู้รังเกียจมนุษย์นั่นก็ลงมือกับเธอหนักขึ้น อย่างการคอยดูดเลือดของแซมไปเรื่อย ๆ จนร่างกายของเธอเข้าใกล้ความตายทุกที

แต่ด้วยสายใยแห่งรักหรืออื่นใดก็ตาม อาร์ธีมิอุสสัมผัสได้ถึงรังสีของความไม่ปลอดภัยของซาแมนเธีย แต่เขาเองก็เดินทางออกมาได้ไกลกว่าที่จะกลับไปแล้ว เขาจึงสั่งให้สมุนแวมไพร์เกือบสิบชีวิตรีบมุ่งกลับไปที่คฤหาสน์แมนเดวิลล์เพื่อช่วยเหลือแซมให้เร็วที่สุด หากใครขัดขวางก็กำจัดทิ้งทันที สมุนของอาร์ธีมิอุสทั้งหมดเข้าต่อสู้กับญาติพี่น้องแมนเดวิลล์ที่มีส่วนร่วมในการทำร้ายแซมปางตาย ร่วมถึง “แม่” ผู้สร้างอาร์ธีมิอุสขึ้นมาเองที่สมุนทั้งสิบต้องใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการโฆ่นล้มเธอ พร้อมเข้าช่วยเหลือหญิงสาวที่ใกล้สิ้นใจและนำเธอกลับไปหาท่านเซอร์ทันที่ สายตาและชีพจรชีวิตของแซมค่อย ๆ ริบหรี่ลงทุกวินาที หากเขาส่งคนไปรับร่างของเธอช้าเพียงนิดเดียว แซมที่ตนรักจะต้องจากโลกนี้ไปอย่างแน่นอน ในที่สุดเขาจำใจต้องทำให้สิ่งที่เขาไม่อยากทำกับหญิงสาวมากที่สุด อาร์ธีมิอุสฝังคมเขี้ยวที่ซ่อนไว้ตลอดเวลาที่อยู่กับแซมออกมา ลงไปบนคอของเธอและแลกเปลี่ยนเลือดสีสดของกันและกัน เพื่อต่อชีวิตของคนรักที่อยู่ในอ้อมอกของตนในที่สุด

แซมตื่นขึ้นมาอีกครั้งและพบว่าเธอยังไม่ตาย แถมบาดแผลเมื่อคืนที่ได้รับก็ไม่ปรากฎขึ้นตามร่างกายอีกด้วย เธอลุกขึ้นไปส่องดูตัวเองในกระจกของห้องนอนใหญ่ ก็พบว่าผิวที่ซีดลงจนเห็นได้ชัดแม้แต่เธอเองก็ยังตกใจ มือบางจึงเอื้อมไปเปิดหน้าตาเพื่อรับแสงแดด แต่แทนที่มันจะสร้างความสดใสของวันนั้น มันกลับทำร้ายผิวหนังของเธออย่างรุนแรง แซมคนเดิมได้เสียชีวิตลงไป และเกิดใหม่เป็นแวมไพร์ตนใหม่ของบ้านแมนเดวิลล์นั่นเอง ท่านเซอร์ที่พบว่าการถ่ายเลือดของเขาให้คนรักเมื่อคืนนั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ทั้งสองโผลเข้ากอดกันด้วยน้ำตาแห่งความปิติและซาบซึ้ง แต่ยังไม่ทันให้เธอได้ดีใจกับชีวิตใหม่ อาร์ธีมิอุสต้องรีบแจ้งเรื่องที่สำคัญมากให้แก่เธอได้รับรู้ หนึ่งในสมุนแวมไพร์ของท่านเซอร์ได้แจ้งให้เขาทราบว่าแม่ผู้สร้างอาร์ธีมิอุสนั้นยังไม่สิ้นใจ และเธอกำลังออกตามล่าเขาและแซมเพื่อปลิดชีวิตให้จงได้ หากเธอและเขายังอยู่ด้วยกัน ชีวิตของทั้งสองคงต้องพบแต่ความไม่สงบไปอีกหลายร้อยแม่ เพื่อความปลอดภัยของซาแมนเธียที่ตนรักที่สุด เขาจำใจต้องปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระจากเขา และส่งแซมออกไปกับสหายแวมไพร์ลึกลับท่านหนึ่ง ที่กำลังเตรียมการหลบหนีอยู่ที่ท่าเรือใกล้บ้านแล้ว แม้แวมไพร์หนุ่มยังรักเธอคนนี้สุดหัวใจอยู่ก็ตาม แต่เพื่อความปลอดภัยของคนรัก เขาก็ต้องทำ ท่านเซอร์นำตัวของแซมไปส่งขึ้นเรือคนสินค้าที่เขาจัดการไว้ให้เพื่อเธอ ปล่อยให้หน้าที่ของสหายของตนต่อในการดูแลหญิงสาว พร้อมทั้งเผาทะเบียนสมรสของตนทิ้งเป็นสัญญาณของการเลิกรา ภาพสุดท้ายของแซมที่ดวงตาเอ่อไปด้วยน้ำสีใส คือท่านเซอร์ที่ส่งยิ้มสุดท้ายให้แก่เธอ และหันหลังเดินกลับเข้าไปในป่าลึกเพียงลำพัง และค่อย ๆ ไกลออกไปเรื่อย ๆ

ระหว่างการเดินทางไปตามมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ แวมไพร์ที่เป็นสหายของอดีตสามีนาม อิไลจาร์ สอนให้แซมใช้ชีวิตเฉกเช่นแวมไพร์ เหมือนกับพ่อที่สอนลูกเล็ก ทั้งการดื่มเลือด การแปลงร่างเป็นค้างคาว รวมถึงสอนให้รู้ถึงความสามารถของแวมไพร์ที่เธอได้รับมา อิไลจาร์จึงเปรียบเสมือนพ่อคนที่สองของแซม แต่เวลาแห่งการเรียนรู้นั้นอยู่ไม่นาน ค.ศ. 1860 การเดินทางด้วยเรือลำใหญ่ก็สิ้นสุดลง อิไลส่งแซมลงที่ท่าเรือขนส่งสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมกล่าวว่าหลังจากนี้ หญิงสาวต้องใช้ชีวิตต่อจากนี้ด้วยตนเอง อย่างน้อยสิ่งที่เขาทำเพื่อเธอได้เป็นอย่างสุดท้าย คือการส่งมนุษย์คนหนึ่งมารับเธอไปอยู่ด้วย แซมบอกลาพ่อคนที่สองของตน พร้อมทั้งทำความรู้จักกับ จอร์จ มนุษย์ที่อิไลบอกว่าส่งมาเพื่อรับแซมไปในที่ที่ปลอดภัย ทั้งสองออกเดินทางอยู่สามวันสองคืน จนจอร์จพาแซมมาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง “เอลิเชียน” คือชื่อของหมู่บ้านที่เขาเล่าว่า เขาอาศัยมาตั้งแต่ที่มันเริ่มก่อตั้งเมื่อสิบปีก่อน ที่นี่ปลอดภัยต่อแวมไพร์เช่นแซม รวมถึงเผ่าพันธุ์เหนือธรรมชาติอื่น ๆ ก็เช่นกัน จอร์จจึงเสนอให้เธออยู่ปักหลักอยู่ที่นี่ และเขาจะเป็นคนช่วยเหลือเธออยู่ที่นี่เอง แซมเห็นว่าที่นี่ช่างสงบเหมือนกับที่จอร์จกล่าว รวมถึงเธอเองก็ไม่อยากเดินทางไปไหนมาไหนอีกแล้วด้วย จึงตัดสินใจอยู่ที่หมู่บ้านเอลิเชียนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ตั้งแต่ ค.ศ. 1860 เป็นต้นมา แซมดำรงชีวิตอยู่กับจอร์จและครอบครัวของเขา ในฐานะสหายเคียงกายในชายคาบ้านหลังเดียวกับเขาและภรรยา รวมถึงสมาชิกครอบครัวของจอร์จคนอื่น ๆ ต้อนรับแวมไพร์คนนี้เป็นอย่างดี ดีกว่าที่บ้านแมนเดวิลล์ได้ทำกับเธอไว้ แซมจึงตอบแทนความดีงามของทั้งหมด ด้วยการเผยแพร่ความรู้ที่มีแต่เดิมในเรื่องการทอผ้าฝ้ายให้แก่ครอบครัวนี้ จนทำให้บ้านหลังนี้เริ่มร่ำรวยขึ้นจากธุรกิจดังกล่าวมาตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน แซมอาศัยการวาดรูปและการสร้างงานศิลปะเป็นอาชีพหลักในการหาเงินดำรงชีพอยู่ที่นี่ บ้างก็กลับไปทำอุตสาหกรรมผ้าบ้างหากรู้สึกคิดถึง นอกจากนี้เธอยังศึกษาและเรียนรู้เรื่องราวน่ารู้เพิ่มเติม เช่น การทำสวน การเลี้ยงสัตว์ รวมถึงศาสตร์ของแวมไพร์เองเธอก็ศึกษาเป็นประจำด้วย

เมื่อไม่นานมานี้หลังจากการรับรู้ข่าว ว่าท่านเซอร์แมนเดวิลล์ยังไม่สิ้นใจและกำลังออกตามหาเธออยู่ แซมหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย เพราะแม้ว่าเธอยังไม่ลืมเขาไปจากความทรงจำ แต่ความรู้สึกรักทั้งหมดเธอยกให้กับชายคนใหม่อย่าง นิโคไล สเตฟาโนวิช ซาคารอฟ ไปแล้ว และถ้าเขาพบตัวเธอเข้าจริง เธอจะต้องจากที่นี่ไปอย่างแน่นอน เธอจึงตัดสินใจเปลี่ยนนามสกุลใหม่กลายเป็น ซาแมนเธีย ลาวีน เพื่อปิดตัวตนในที่สุด

[Image: dGhx9GM.png]

อุปนิสัย :
ซาแมนเธียมองตัวเองเป็นสามมุมมองที่แตกต่างกัน หากมองผ่านมุมมองของคนทั่วไป แซมเป็นคนสุภาพ ยิ้มแย้มตลอดเวลา เป็นมิตรกับทุกเผ่าพันธุ์ ไม่ถือตนเรื่องอายุและลำดับรุ่น เป็นคนตัดสินใจเด็ดขาดในทุกเรื่อง โรแมนติกแต่เข้าถึงหัวใจได้ยากพอสมควร เว้นแต่เธอจะเป็นคนที่เข้าหาคนที่เธอสนใจเอง อีกมุมหนึ่งที่เมื่อสนิทกันขึ้นมาแล้ว คือแซมเป็นคนที่ชอบการแข่งขัน และการประลองท้าทายเป็นอย่างมาก หากได้ต่อสู้แล้ว แซมก็ไม่รู้จักคำว่ายอมและแพ้อีกเลย ไม่มีคำว่าเสมอสำหรับแซมในการต่อสู้ เธอต้องชนะเท่านั้น ส่วนมุมสุดท้ายที่นอกจากเธอและคนที่ไว้ใจแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถเห็นได้ง่าย ๆ อีก คือ แปลก แซมมักชอบทำอะไรที่ชาวบ้านเขาไม่ทำกัน หรือคิดอะไรที่ชาวบ้านมองว่ามันประหลาด การกระทำบางอย่างที่จู่ ๆ เธอก็นึกจะทำตอนไหนก็ทำเสียตอนนั้น มักมาจากมุมนี้ของซาแมนเธียอยู่เสมอ

เฟสเคลม : Giselle (aespa)
โค้ดสี : #AE2012 (Rufous)

โพสต์นี้แก้ไขล่าสุด: 04-26-2024, 01:14 AM โดย Samanthia Lavigne
ตอบกลับ
แวมไพร์ระดับ 2

หมอกทมิฬ

ชุดตัวละคร
เครื่องรางเผ่าพันธุ์
สมบัติล้ำค่า
#2
[Image: 7cvHUcY.png]
*ข้อที่มีการ Mark ไว้ = อ้างอิงจากผู้ปกครอง*
[Image: sDgWVR9.png]
  • กลิ่นประจำตัวของซาแมนเธียคือ สับปะรด (Pineapple)

  • เหตุผลที่ “เธีย” เป็นชื่อที่ต้องได้รับการอนุญาตจากแซมก่อนเท่านั้น เป็นเพราะว่าชื่อนี้เป็นชื่อที่ไม่ทางการ ต่างจากชื่อ “แซม” หรือ “ซาแมนเธีย” ที่เธอมักใช้กับการออกสังคมอยู่เสมอ เสมือนกับว่าแซมเป็นบุคลิกที่ต้องสร้างขึ้นเพื่อความเรียบร้อย แต่เธียคือบุคลิกหรือตัวตนที่แท้จริง ที่เธอจะสามารถแสดงออกมาได้เต็มที่ต่อหน้าคนที่ไว้ใจ มีเพียงคนที่เธอรู้สึกสบายใจเท่านั้นที่จะได้เห็นมุมนี้ (ว่ากันว่ามีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นที่ได้เรียกชื่อนี้ คือ ท่านเซอร์, ฟริกก์ และ นิโคไล)

  • ในปี 1980 ซาแมนเธียได้เข้าศึกษาใน California Institute of the Arts ในชื่อของ มาเรียน่า อากิโมโตะ ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง ที่รับหน้าที่ปลอมแปลงเอกสารเกี่ยวกับตัวตนของเธอให้ แซมศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับศิลปะโดยตรง ตลอดระยะเวลาการเรียน เธอพยายามเลี่ยงเป็นจุดสนใจแก่คนหมู่มากจนใกล้เคียงกับ Introvert เพราะกลัวว่าวันหนึ่งเธอจะถูกเปิดโปงเรื่องสายพันธุ์แวมไพร์นั่นเอง ถึงเช่นนั้นแซมก็ยังเป็นหนึ่งในนักเรียนที่มีคะแนนโดดเด่นอยู่เสมอ

  • อาชีพปัจจุบันของซาแมนเธีย Freelance Graphic Designer

  • แซมไม่ชอบเด็กและการเลี้ยงดูเด็กเสียเท่าไหร่ เธอมองว่ามนุษย์ในช่วงนี้ดูแลเอาใจยาก และซับซ้อนเกินไปกว่าที่เธอจะเข้าใจ แต่เธอก็ไม่ได้ต่อต้านมันเสียทีเดียว เพราะปัจจุบันเธอก็เป็นแม่ทูลหัวให้แก่ แอนดี้ (เธอเป็นคนตั้งชื่อให้เขาเอง) ลูกชายคนโตของจอร์จ สหายมนุษย์คนแรกในเอลิเชียนและภรรยาของเขา เธอส่งเสียเลี้ยงดูแอนดี้มาตั้งแต่ที่เขาลืมตามาบนโลก จนถึงวันที่เขาเติบใหญ่มีครอบครัวเช่นเดียวกับพ่อของเขา ปัจจุบันลูกชายทูลหัวของเธอได้ย้ายออกจากหมู่บ้านนี้ไปตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่เธอก็ยังคงติดต่ออยู่กับแอนดี้อยู่เสมอ

  • แซมไม่ชอบสุนัขทุกประเภท จิ้งจอก และหมาป่า ด้วยเหตุของกลิ่นกายของสัตว์สปีชีส์นี้ที่มีความเฉพาะตัวนั้น มีผลค่อนข้างรุนแรงกับหญิงสาวตั้งแต่อาการวิงเวียนศีรษะ ไปจนถึงอาเจียนออกมา หากได้รับกลิ่นเหล่านั้นมากเกินไป ถึงเช่นนั้น แซมก็ยังสามารถพูดคุยหรือผูกมิตรกับมนุษย์หมาป่าได้ตามปกติ แค่เธอต้องหลีกเลี่ยงกับพบเจอกันเป็นต่อหน้า (หากไม่จำเป็น) และเน้นพูดคุยกันผ่านข้อความในโทรศัพท์มากกว่า

  • ตั้งแต่อยู่ที่หมู่บ้านเอลิเชียนมา แซมผ่านการเลี้ยงสัตว์มาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแมวจรจัดที่บังเอิญพบเสียมากกว่า ซึ่งปัจจุบันแซมมีสัตว์เลี้ยงอยู่ 1 ตัวถ้วน เป็นแมวสามสีตัวเมียที่ชื่อว่า ทริกซ์ (Trix) ชื่อของมันมาจากซีเรียลยี่ห้อหนึ่งที่มีหลากสีสัน เช่นเดียวกับวันที่เธอเจอมันในสภาพหลังคลุกสีน้ำไปทั่วตัว หลังจากที่มันแอบเข้ามานอนอยู่ที่ใต้รถยนต์เก่าของเธอ แซมจึงนำมาตั้งให้มันในที่สุด ปัจจุบันมันอยู่มากับแซมได้ 3 ปีแล้ว และมันก็อ้วนมากด้วย

  • ลิ้นจระเข้ : แซมบกพร่องทางด้านการรับรสชาติมาตั้งแต่จำความได้ ในช่วงที่แซมยังไม่ถึงวัยเจริญพันธุ์ เธอยังพอสามารถแยกแยะรสชาติที่มีลักษณะโดดเด่นขึ้นมาได้ดี แต่เมื่อร่างกายเข้าสู่ช่วงวัยเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ความสามารถในการรับรสชาติก็หายไปอย่างสมบูรณ์ จนแซมได้กลายร่างเป็นแวมไพร์ที่ประสาทสัมผัสทุกอย่างดีขึ้นมาก การรับรู้รสชาติของแซมก็ยังอยู่ในขั้น "ห่วยแตก" เหมือนเดิม เพราะเธอไม่รู้ว่าอะไรอร่อยหรือไม่อร่อยนั่นเอง

  • ซาแมนเธียเป็นคนสูบบุหรี่ในระดับหนึ่ง กล่าวคือ แซมมักสูบบุหรี่ทุกครั้งที่รู้สึกอยากในกลิ่นนิโคติน และมักหนีไปสูบในที่ที่ลับตาคนเท่านั้น การกระทำนี้ เธอติดมาตั้งแต่ที่ยังอยู่ด้วยกันกับท่านเซอร์อาร์ธีมิอุส แต่เมื่อทริกซ์เข้ามาในชีวิต เธอก็สูบมันในปริมาณที่น้อยลงจากเดิมมาก เพราะมันมักทำหน้าไม่พอใจทุกครั้งที่ได้กลิ่นนิโคตินอยู่เสมอ

  • ปกติแล้ว ซาแมนเธียไม่มีเสื้อผ้าหรือสไตล์การแต่งตัวที่ตายตัว เธอมักแต่งไปตามเทรนด์แฟชั่นของแต่ละยุคสมัย แต่ถ้าให้เลือกสิ่งที่ใส่บ่อยที่สุด คือเสื้อผ้าประเภทที่สั้นและโชว์ผิวหนัง เช่นเสื้อแขนกุด เกาะอก สายเดี่ยว กางเกงหรือกระโปรงสั้น รองเท้าส้นสูง รองเท้าบูท และรองเท้าสนีกเกอร์ และเธอจะไม่ใส่เสื้อผ้ายาว หรือ รองเท้าแตะหากไม่จำเป็น

  • แซมพยายามที่จะฝึกฝนการเล่นกีตาร์ไฟฟ้าด้วยตนเองอยู่บ่อยครั้ง ปัจจุบันเธอจึงสามารถเล่นกีตาร์ไฟฟ้าได้ในระดับหนึ่ง

  • อันที่จริงแล้ว ท่านเซอร์อาร์ธีมิอุสตั้งใจให้ชื่อของเธอเป็น ซาแมนธา (Samantha) ตามปกติ แต่เป็นเธอเองที่เต็มตัว I ขึ้นมาในชื่อเพื่อความแตกต่าง จนกลายเป็น ซาแมนเธีย (Samanthia) อย่างในปัจจุบัน

  • ช่วงเวลาในการจำศีลของซาแมนเธีย คือเดือนตุลาคมของทุกปี โดยเธอจะเริ่มเข้าสู่การจำศีลตั้งแต่วันที่หนึ่ง ยาวไปจนถึงวันสุดท้ายของเดือน และตื่นนอนในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งระยะเวลาในการจำศีลยังไม่เป็นที่แน่นอน ขั้นต่ำคือ 1 เดือน ส่วนการจำศีลที่แซมทำไว้นานที่สุดคือ 2 ปีกับอีก 8 เดือน เป็นไปได้เธอเองก็ไม่อยากบอกเรื่องนี้กับใครเลย

  • * แซมเป็น EXO-L หญิงสาวรู้จักศิลปินกลุ่มนี้ผ่านอินเทอร์เน็ตในวันที่กำลังท่องเว็บไปตามปกติ โดยเธอติดตามมาตั้งแต่ที่พวกเขาเดบิวต์เป็นน้องใหม่ของวงการ K-POP มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนเมนของแซมนั้นไม่ตายตัว เพราะอันที่จริงเธอชอบสมาชิกในวงทุกคน แต่ถ้าต้องให้เลือกคนที่ชอบที่สุด เธอจะตอบว่าไค (Kai) อยู่เสมอ

  • TBC ...

โพสต์นี้แก้ไขล่าสุด: 02-26-2024, 11:12 PM โดย Samanthia Lavigne
ตอบกลับ
แวมไพร์ระดับ 2

หมอกทมิฬ

ชุดตัวละคร
เครื่องรางเผ่าพันธุ์
สมบัติล้ำค่า
#3
[Image: UUMc91X.png]
[Image: sDgWVR9.png]
  • ฟริกก์ ยูมีรีย์ อิกก์ดราซิลลัส (เพื่อนสนิท - เสียชีวิต) : ทั้งสองเจอกันครั้งแรกผ่านโลกออนไลน์ โดยฟริกก์เป็นฝ่ายที่เข้ามาทักทายแซมก่อน เนื่องจากคิดว่าเธอเป็นเพื่อนในวัยเด็กของฟริกก์ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ฟริกก์และแซมก็มีโอกาสได้พูดคุยเรื่อย ๆ ผ่าน Instagram จนถึงวันที่อีกฝ่ายย้ายมาที่หมู่บ้านนี้ ทั้งสองมักนัดหมายไปเที่ยวด้วยกันในยามราตรีอยู่บ่อยครั้ง สนิทกันตัวติดกันแทบตลอดเวลา แต่เวลาแห่งความสุขก็คงอยู่ไปนาน เธอพบร่างไร้ลมหายใจของฟริกก์อยู่กลางป่าแห่งหนึ่ง พร้อมจดหมายสั่งลาหนึ่งฉบับ ภายในระบุไว้ว่าฟริกก์อยากหลุดพ้นจากชีวิตแวมไพร์ที่เธอไม่ต้องการเป็น เธอจึงจบชีวิตด้วยการขโมยกริชเงินบริสุทธิ์มาจากนักล่าแวมไพร์คนหนึ่งมา และปลิดชีพตนเองในที่สุด สิ่งนั้นสร้างความสะเทือนใจให้แก่แซม มันช็อคจนทำให้แซมไม่สามารถพูดออกมาได้ มีเพียงแค่น้ำตาและอ้อมกอดร่างไร้วิญญาณเท่านั้น

  • นิโคไล สเตฟาโนวิช ซาคารอฟ (คนรัก - อโดนิสของอะโฟรไดท์) : ผู้ชายคนแรกที่แซมเปิดใจและทำความรู้จักด้วย หลังจากที่ครองชีวิตโสดมานับหนึ่งร้อยกว่าปี ตั้งแต่ที่เธอและท่านเซอร์ได้แยกจากกันในครานั้น แซมบังเอิญเดินผ่านและชนเข้ากับนิโคไลในบาร์ประจำหมู่บ้าน สื่งที่ดึงดูดของเขาที่ทำให้เธอสนใจได้ตั้งแต่การพบกันครั้งแรก คือแววตาที่ไม่ต่างอะไรจากท่านเซอร์อาร์ธีมิอุสเลยแม้แต่น้อย เธอเริ่มเข้าหาและทำความรู้จักกับนิโคไลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลังจากที่อยู่ในสถานะที่ไม่มีชื่อเรียกมาเป็นเวลาระยะหนึ่ง ในที่สุดเขาก็ขอเธอออกเดตเป็นคนรัก และซาแมนเธียก็ตอบตกลงอย่างรวดเร็ว

  • เซเฟอร์ เลน (เพื่อน - คู่แข่งที่ยอมไม่ได้) : ทั้งสองเจอกันครั้งแรกที่งานเทศกาลทานาบาตะประจำปี 2023 ของหมู่บ้านเอลิเชียน ด้วยกลิ่นโรสแมรี่อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ทำให้เธอตัดสินใจเข้าไปสอบถามถึงเทศกาลที่เธอไม่รู้จักนี้จากชายหนุ่ม แต่สถานการณ์ที่ทำให้ทั้งเซเฟอร์และซาแมนเธียสนิทสนมกันมากขึ้น คือการประลองความเร็วที่ชายป่า อันเกิดจากการเชิญชวนแบบสุ่มของแซมเอง หลังจากนั้นเป็นต้นมา เซเฟอร์ก็เป็นเป้าหมายที่ต้องทำคะแนนแซงเขาให้ได้ทุกครั้งที่มีโอกาส

  • ชาร์ล็อต เลน่า ชเตรลิทซ์ (เพื่อน - บุคคลพลังงานสูง) : ใจกลางหมู่บ้านเอลิเชียนคือสถานที่แรกที่ทั้งสองได้พบกัน เด็กสาวพลังงานเยอะสร้าง First Impression ที่น่าจดจำมากสำหรับแซม ทั้งการเชิญชวนให้เธอทำความเคารพอนุสรณ์ หรือการเป็นกรรมการให้กับการประลองจากการขอเพียงครั้งเดียวก็ตาม ชาร์ล็อตทำให้แซมรู้สึกนึกถึงครั้งแรกที่เธอได้รู้จักกับฟริกก์ อีกอย่าง เด็กสาวตรงหน้าก็เป็นคนที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไรด้วย แซมจึงได้กล้าเข้าหาและนับเธอเป็นเพื่อนได้อย่างง่ายดาย

  • คามิน โจนส์ (เพื่อน - มนุษย์หมาป่าในรอบสองร้อยปี) : ด้วยการสานสัมพันธ์ด้วยเครื่องดื่มในบาร์และมวนนิโคติน คามินถือว่าเป็นมนุษย์หมาป่าคนแรกที่ซาแมนเธียได้พูดคุยด้วย หลังจากที่เธอหลีกเลี่ยงการพบเจอเผ่าพันธุ์นี้มาตลอดชีวิตที่ผ่านมา ด้วยความเป็นมิตรของคามิน ทำให้แซมแทบลืมถึงเรื่องกลิ่นอันเอกลักษณ์ของหมาป่าไปในทันที ถึงแม้วิธีการกลบกลิ่นของเธอเองจะค่อนข้างแปลกไปหน่อยก็ตาม

  • เดลฟินัส เมลิโอ ควอเทียร์ (เพื่อน? - มิตรภาพหลังเที่ยงคืน) : สิ่งที่แซมจำได้เกี่ยวกับชายคนนี้ คือเขากลัวแวมไพร์เช่นเธอเป็นอย่างมาก แต่เขาและเธอมักบังเอิญเจอกันทุกครั้งที่ไปตกปลาหรือทำฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็นเวลาดึกที่แซมออกมาใช้ชีวิตแวมไพร์ หรือแม้แต่ช่วงหัวค่ำเองก็ยังสามารถพบเขาได้ อีกหนึ่งความจำที่เกี่ยวกับเดลฟินัสสำหรับแซม ก็คงเป็นการที่เขาคือมนุษย์คนแรกที่เธอแพ้ประลองอย่างราบคาบ เพราะอีกฝ่ายใช้กระสุนเงินน่ะสิ

  • โซราเรีย อาร์เชอร์ (เพื่อนใหม่ - ผู้ครอบครองเลือดขวดแรก) : ก่อนหน้านั้น พวกเขารู้จักกันแบบผิวเผิน เนื่องจากแซมเป็นกรรมการในการประลองของชาร์ล็อต แต่ในการประลองครั้งหนึ่งที่เขากับเธอเป็นคู่ดวลกัน โซราเรียได้ขอเลือดของเธอเป็นเดิมพัน และเขาก็สามารถเอาชนะเธอได้อย่างง่ายดาย เลือดขวดแรกของซาแมนเธียจึงได้โซราเรียเป็นผู้ครอบครองไปนั่นเอง

  • คลาเกียอาร์ ไบอา (เพื่อนใหม่ - แฟรี่เท้าไฟ) : เจอกันครั้งแรกด้วยความบังเอิญขณะที่เธอและแคลกำลังตกปลากันอยู่ เธอนับเป็นแฟรี่คนที่สองที่แซมได้รู้จักตั้งแต่อยู่หมู่บ้านนี้มา นอกเหนือจากการเจอกันครั้งแรกและได้ดื่มน้ำส้มของเธอแล้ว ลวดลายการเต้นของคลาเกียอาร์ยังน่าจดจำมากสำหรับแซมอีกด้วย

  • แอชลิน กอนซาเลซ (เพื่อนใหม่ - บัดดี้แห่งเอลิเชียน) : แฟรี่คนแรกที่ซาแมนเธียได้รู้จัก พ่วงด้วยการเป็นบัดดี้คนแรกของเธออีกด้วย เนื่องด้วยเวลาของทั้งสองไม่ค่อยตรงกันสักเท่าไหร่ เธอและแซมจึงยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันมากเท่าที่ควร แต่แซมเองก็ประทับใจในตัวของแฟรี่คนนี้อยู่ไม่น้อย และเธอจะพยายามให้อีกฝ่ายประทับใจได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

  • ยูจีน สแคนเดอร์ ไคลน์ (คนรู้จัก - คู่ประลองฉบับเร่งด่วน) : ไม่รู้ว่าด้วยมุมมองของสาวนักสู้ หรือมุมมองของแซมคนแปลกก็ตาม แต่ยูจีนคือคนแรกที่แซมขอท้าประลองด้วยกันตั้งแต่ครั้งแรกที่พบหน้า ชนิดที่ว่าตอนนั้นเธอยังไม่ทราบชื่อจริง ๆ ของเขาเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งยูจีนยังคิดว่าแซมเป็นมิจฉาชีพร่วมกับชาร์ล็อตด้วย ใช้ใจนำไปให้ทักทายผสมกับกลิ่นแอมเบอร์ผสมหนังที่แท้ โชคดีที่อีกฝ่ายตอบรับคำเชิญฉุกเฉินนั่นแต่โดยดี จนทำให้เกิดการประลองสุดฉุกเฉินนั้นขึ้นมาในที่สุด

  • ซันนี่ ซัมเมอร์ (คนรู้จัก - "มัมหมี" โดยไม่รู้ตัว) : รู้จักกันผ่านการเจอกันในการประลองของซันนี่และเดลฟินัส ที่แซมได้เข้าไปเป็นกรรมการให้ทั้งคู่ด้วยความบังเอิญ ซันนี่เด็กกว่าใคร ๆ ที่แซมรู้จักในหมู่บ้านนี้มาเลย แซมรู้สึกสนุกและเป็นมิตรกับเด็กคนนี้มาตั้งแต่แรกที่ได้รู้จัก สำหรับแซมแล้ว ซันนี่ไม่ต่างอะไรจากแอนดี้ ลูกทูลหัวของตนในตอนเด็กเลย ต่างกันก็แค่ปีเกิดและเวลาที่เจอก็เท่านั้น

  • TBC ...

โพสต์นี้แก้ไขล่าสุด: 02-26-2024, 11:12 PM โดย Samanthia Lavigne
ตอบกลับ



ผู้ที่กำลังดูกระทู้นี้:
1 ผู้เยี่ยมชม

Forum software by © MyBB Theme © Matthew Zircon 2022